นายซาโตะกล่าวต่อที่ประชุมร่วมกับผู้นำธุรกิจในจังหวัดโออิตะว่า “สิ่งที่เป็นเป้าหมายในการสร้างเสถียรภาพด้านราคานั้น ไม่ใช่สถานการณ์ที่ราคาปรับตัวขึ้นแต่เพียงอย่างเดียว"
“เราจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงการเข้าใจผิดใดๆที่ว่า บีโอเจได้ให้ความสำคัญกับการปรับตัวขึ้นในด้านราคาโดยที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจ" เขากล่าว พร้อมกับเสริมว่า การปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อจะต้องมาพร้อมกับการเพิ่มขึ้นของค่าจ้าง
บีโอเจคาดว่า ธนาคารจะประสบความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับ 2% ประมาณในปีงบประมาณ 2558 ในขณะที่ธนาคารเดินหน้าใช้นโยบายผ่อนคลายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมทั้งการซื้อทรัพย์สินทางการเงินที่หลากหลายจากภาคธนาคาร และการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินอย่างต่อเนื่อง
นายซาโตะแสดงความเห็นว่า ญี่ปุ่นกำลังขาดแคลนแรงงาน โดยอ้างถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจที่นำโดยภาคบริการ ซึ่งมีศักยภาพการผลิตของแรงงานต่ำกว่าในภาคอุตสาหกรรมการผลิต
“การปรับตัวขึ้นของราคาในปัจจุบันได้รับผลกระทบจากความจริงที่ว่าเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจ้างงาน กำลังเริ่มแตะที่เพดานสูงสุดของศักยภาพด้านอุปทานเร็วกว่าที่ได้คาดไว้" เขากล่าว
นายซาโตะกล่าวว่า นโยบายผ่อนคลายทางการเงินขนานใหญ่ของบีโอเจ ที่เริ่มใช้ในเดือนเม.ย.2556 ภายใต้การนำของนายฮารุฮิโกะ คูโรดะ ผู้ว่าการบีโอเจ ยังไม่มีประสิทธิภาพอย่างเต็มที่ สำนักข่าวเกียวโดรายงาน