กรรมการ ECB คาดอัตราเงินเฟ้อยูโรโซนปรับตัวเป็นบวกช่วงครึ่งหลังของปีนี้

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday March 2, 2016 17:34 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายฟรองซัวร์ วิลเลอร์รอย เดอ กัลฮอ หนึ่งในกรรมการธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนมีแนวโน้มปรับตัวเป็นบวกในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ แต่ภารกิจของ ECB ในการต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อต่ำก็ยังคงไม่สิ้นสุดลง

นายวิลเลอร์รอยยืนยันว่า ยูโรโซนไม่ได้ตกอยู่ในภาวะเงินฝืด ถึงแม้อัตราเงินเฟ้อติดลบในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นผลจากการที่ราคาน้ำมันดิ่งลง ซึ่งเมื่อราคาน้ำมันมีเสถียรภาพ อัตราเงินเฟ้อก็จะมีค่าเป็นบวกในช่วงครึ่งปีหลัง

เขาระบุว่า คณะกรรมการของ ECB จะจับตาอย่างใกล้ชิดต่อสัญญาณที่บ่งชี้ว่าภาวะราคาน้ำมันต่ำได้ส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าและบริการหรือไม่ ขณะที่ ECB จัดการประชุมในวันที่ 10 มี.ค. เพื่อพิจารณาว่าจะมีการซื้อพันธบัตรเพิ่มเติมหรือไม่เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อ

สำนักงานสถิติแห่งชาติของสหภาพยุโรป (ยูโรสแตท) รายงานว่า อัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนอยู่ที่ระดับ -0.2% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนม.ค.

การร่วงลงของอัตราเงินเฟ้อสู่แดนลบดังกล่าวทำให้มีการคาดการณ์เพิ่มขึ้นว่า ECB จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ในการประชุมนโยบายในวันที่ 10 มี.ค.เพื่อผลักดันอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนไปสู่เป้าหมายของ ECB ที่ใกล้ระดับ 2%

การปรับตัวลงของอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน ซึ่งร่วงลง 8% ตั้งแต่ต้นปีนี้ เมื่อเทียบกับที่ปรับตัวลง 5.4% ในเดือนม.ค.

รายงานการประชุมนโยบายการเงินของ ECB ประจำวันที่ 21 ม.ค. บ่งชี้ว่า กรรมการ ECB มีความกังวลต่อภาวะผันผวนของตลาดการเงิน และแนวโน้มที่ซบเซาของเศรษฐกิจจีน และตลาดเกิดใหม่

นอกจากนี้ กรรมการ ECB ยังได้หารือกันว่าภาวะอัตราเงินเฟ้อต่ำในปัจจุบันจะส่งผลกระทบในระยะยาวต่อค่าแรงและราคาหรือไม่ ขณะที่ ECB ตั้งเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อที่ระดับต่ำกว่า 2% เล็กน้อย

ความกังวลดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณว่า ECB อาจทำการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในการประชุมวันที่ 10 มี.ค. โดย ECB อาจทำการเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งขณะนี้มีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน

นอกจากนี้ ECB อาจทำการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินฝากสำหรับธนาคารพาณิชย์ที่นำเงินมาฝากไว้ที่ ECB จากขณะนี้ที่ระดับ -0.3% โดยธนาคารพาณิชย์จะต้องเป็นฝ่ายจ่ายค่าฝากแก่ ECB หากมีการนำเงินส่วนเกินมาพักไว้ที่ ECB โดยมาตรการของ ECB มีขึ้นเพื่อกระตุ้นให้ธนาคารพาณิชย์นำเงินไปปล่อยกู้แก่ภาคธุรกิจ แทนที่จะนำมาพักไว้ที่ ECB และต้องการลดการออมของประชาชน เพื่อให้มีการใช้จ่ายมากขึ้น และกระตุ้นเศรษฐกิจให้หลุดพ้นจากภาวะเงินฝืด


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ