นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินเมื่อวานนี้ว่า ตนจะยังคงปฏิบัติหน้าที่ประธานเฟดต่อไปจนครบวาระ ถึงแม้เผชิญแรงกดดันจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ
"ดิฉันได้รับการรับรองจากวุฒิสภาให้มาทำหน้าที่เป็นเวลา 4 ปี และช่วงเวลาในการดำรงตำแหน่งประธานเฟดก็ไม่ได้จงใจให้ตรงกับการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีคนใด โดยดิฉันมีความประสงค์ที่จะดำรงตำแหน่งจนครบวาระ 4 ปี" นางเยลเลนกล่าว
"ดิฉันยังไม่ได้ทำการตัดสินใจใดๆเกี่ยวกับอนาคต โดยดิฉันยอมรับว่าอาจจะได้รับการแต่งตั้งอีกสมัยหนึ่งหรือไม่ก็ได้"
ทั้งนี้ นางเยลเลนเริ่มดำรงตำแหน่งประธานเฟดในเดือนก.พ.2014 ซึ่งหมายความว่านางเยลเลนจะต้องปฏิบัติหน้าที่ร่วมกับนายทรัมป์ต่อไปอีกอย่างน้อย 1 ปี
มีการคาดการณ์กันก่อนหน้านี้ว่า หากนายทรัมป์ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ก็มีความเป็นไปได้ว่านางเยลเลนจะประกาศลาออกจากตำแหน่งก่อนครบวาระ
การคาดการณ์ดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่นายทรัมป์กล่าวโจมตีนางเยลเลนบนเวทีดีเบตกับนางฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต โดยกล่าวว่าเฟดได้จงใจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำโดยหวังให้ตลาดหุ้นพุ่งขึ้นเพื่อเอื้อประโยชน์ต่อรัฐบาลของประธานาธิบดีบารัค โอบามา และเฟดกำลังเล่นการเมืองมากกว่านางฮิลลารี
นายทรัมป์กล่าวหานางเยลเลนว่าได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำโดยมีวาระซ่อนเร้นทางการเมือง และเธอควรมีความละอายแก่ใจ
ขณะเดียวกัน มีการคาดการณ์กันว่า นายทรัมป์อาจแทรกแซงการกำกับนโยบายของเฟด ด้วยการแต่งตั้งกรรมการเฟดคนใหม่อีก 2 คนสำหรับตำแหน่งที่ว่างอยู่ในขณะนี้ รวมทั้งแต่งตั้งประธานเฟดคนใหม่ หลังจากที่นางเยลเลน ประธานเฟดคนปัจจุบัน ครบวาระการดำรงตำแหน่งในปี 2018