คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติด้วยคะแนนเสียงเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ที่ระดับ 0.75-1.00% ในการประชุมวันนี้ ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ ขณะที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และส่งสัญญาณว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปในปีนี้
ก่อนหน้านี้ เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมในเดือนมี.ค.ซึ่งเป็นการปรับขึ้นเป็นครั้งแรกในปีนี้
ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 1 ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.2%
การขยายตัวที่ต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1 ได้รับผลกระทบจากการใช้จ่ายที่ซบเซาของผู้บริโภค และตอกย้ำรูปแบบการปรับตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่มักจะชะลอตัวในช่วงต้นปี
"FOMC มองว่าการชะลอตัวของเศรษฐกิจในไตรมาสแรกมีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว และคาดการณ์ว่าด้วยการปรับเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป เศรษฐกิจจะสามารถขยายตัวในระดับปานกลาง" แถลงการณ์ระบุ
แถลงการณ์เฟดระบุว่า เศรษฐกิจได้ชะลอตัวลง ขณะที่การใช้จ่ายของภาคครัวเรือนเพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อย อย่างไรก็ดี เฟดคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะกระเตื้องขึ้นในช่วงต่อไปในปีนี้ โดยเศรษฐกิจจะมีการขยายตัวในระดับปานกลาง ขณะที่ตลาดแรงงานจะแข็งแกร่งขึ้น และเงินเฟ้อจะมีเสถียรภาพที่ระดับ 2% ในระยะกลาง
"FOMC คาดว่าภาวะเศรษฐกิจจะปรับตัวในลักษณะที่ทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" แถลงการณ์ระบุ
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ว่าเฟดจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% อีก 2 ครั้งในปีนี้