(เพิ่มเติม) ธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดฉากการประชุมวันนี้ คาดคงนโยบาย เหตุเงินเฟ้อยังต่ำกว่าเป้า

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้เริ่มต้นการประชุมนโยบายที่จะจัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันแล้วในวันนี้ โดยคาดกันว่า ธนาคารจะยังคงนโยบายกระตุ้นการเงินเชิงรุก ในขณะที่เงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2%

สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า การตัดสินใจคงนโยบายนั้นอาจจะสวนทางกับธนาคารกลางสหรัฐที่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งในปีนี้ ในขณะที่ธนาคารกลางยุโรปก็มีแนวโน้มที่จะยุติโครงการซื้อสินทรัพย์ด้วยเช่นกัน

สภาพเศรษฐกิจญี่ปุ่นปรับตัวดีขึ้นในรายด้าน ซึ่งรวมถึงการส่งออกที่สดใส รวมทั้งความต้องการใช้จ่ายด้านเงินทุนที่แข็งแกร่ง โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศที่แท้จริงได้ขยายตัวติดต่อกัน 8 ไตรมาส ก่อนหน้าที่จะหดตัวลงในช่วงเดือนม.ค.-มี.ค. ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์มองว่า ตัวเลขดังกล่าวมีแนวโน้มว่าจะชะลอตัวลงเพียงชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม การขยายตัวของค่าจ้างที่ซบเซา และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ทำให้ภาคครัวเรือนยังคงประหยัดการใช้จ่าย อีกทั้งยังทำให้บริษัทต่างๆขาดความมั่นใจในการขึ้นราคาสินค้าและบริการ

ธนาคารกลางญี่ปุ่นมองว่า เงินเฟ้อที่ระดับ 2% นั้น สอดคล้องกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่มีเสถียรภาพ โดยราคาผู้บริโภคพื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงานนั้น ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงเดือนก.พ. ก่อนชะลอตัวลงในเดือนมี.ค. หลังจากนั้นได้กลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้งแตะระดับ 0.7% ในเดือนเม.ย. เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว

เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์แล้ว นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ และบอร์ด BOJ คาดว่า จะคงนโยบายการซื้อพันธบัตรรัฐบาลไว้ เพื่อผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปี อยู่ใกล้เคียงระดับ 0% รวมทั้งการใช้อัตราดอกเบี้ยที่ระดับติดลบ 0.1% สำหรับกองทุนบางกองทุนที่สถาบันการเงินได้ฝากไว้ที่ธนาคารกลาง

นายคุโรดะอาจจะย้ำในการแถลงข่าวภายหลังการประชุมด้วยการให้คำมั่นว่า จะคงนโยบายสนับสนุนไว้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเงินเฟ้อ แม้ว่า จะมีการยกเลิกวันที่เป้าหมายที่กำหนดไว้ในปีงบประมาณ 2562 ซึ่งได้มีการประกาศไว้ก่อนหน้านี้ แต่ก็ดูเหมือนว่า ประเด็นดังกล่าวเริ่มที่จะมีความสำคัญน้อยลงภายใน BOJ

อีกสาเหตุหนึ่งที่จะทำให้นายคุโรดะเลี่ยงการยกเลิกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก็คือประเด็นการเมือง โดยนายชินโซ อาเบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งได้แต่งตั้งนายคุโรดะเมื่อปี 2556 ต้องการที่จะทำหน้าที่เป็นสมัยที่ 3 ติดต่กัน ในฐานะหัวหน้าพรรคแอลดีพีในการเลือกตั้งภายในที่จะจัดขึ้นในเดือนก.บ. ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงนโยบายในขณะนี้มีความเสี่ยงที่จะทำให้นายกฯได้รับเสียงสนับสนุนน้อยลง หลังจากที่ได้รับผลกระทบจากเหตุอื้อฉาวที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องก่อนหน้านี้

นอกจากนี้ บอร์ด BOJ มีแนวโน้มที่จะหารือเรื่องผลกระทบของมาตรการกระตุ้นต่อเศรษฐกิจ ตลอดจนผลกระทบของรายได้ของธนาคารพาณิชย์ต่างๆ นอกจากนี้ สถานการณ์ตึงเครียดมากยิ่งขึ้นระหว่างสหรัฐและประเทศพันธมิตรรายใหญ่สุดของสหรัฐก็อาจจะเป็นประเด็นที่จะมีการหยิบมาหารือด้วยเช่นกัน