ตลาดการเงินทั่วโลกต่างก็จับตาการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 25-26 ก.ย.นี้ ขณะที่มีการคาดการณ์เป็นวงกว้างว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้
นักลงทุนและนักวิเคราะห์ในตลาดการเงินคาดการณ์ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมครั้งนี้ ก่อนที่จะปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนธ.ค. หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.และมิ.ย. ซึ่งจะส่งผลให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้
หนึ่งในปัจจัยที่สนับสนุนกระแสคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดนั้น มาจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐเมื่อวันที่ 7 ก.ย. ซึ่งระบุว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนส.ค. พุ่งขึ้น 201,000 ตำแหน่ง สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 191,000 ตำแหน่ง
ส่วนตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อนั้น เพิ่มขึ้น 10 เซนต์/ชั่วโมง หรือ 0.4% จากระดับ 0.3% ในเดือนก.ค. และพุ่งขึ้น 2.9% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2552 และสูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.7%