นายพาวเวลกล่าวต่อไปว่า เพื่อป้องกันเงินเฟ้อที่จะตามมาพร้อมกับอัตราการว่างงานในระดับต่ำ เฟดจึงต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป
ประธานเฟดระบุว่า เฟดสามารถสกัดอัตราเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้น ด้วยการชี้นำการคาดการณ์ในตลาด แม้ว่าอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ
นายพาวเวลยังระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากที่ได้เริ่มวงจรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2558
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 2.00-2.25% พร้อมกับส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในเดือนธ.ค. และปรับขึ้น 3 ครั้งในปีหน้า และอีก 1 ครั้งในปี 2563
นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดใช้นโยบายควบคุมการเติบโตอย่างระมัดระวัง เพื่อให้มั่นใจว่าการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจจะยังคงดำเนินต่อไป
"การยกเลิกนโยบายผ่อนคลายเร็วเกินไปจะส่งผลกระทบต่อการขยายตัว แต่ถ้าทำช้าเกินไป ก็จะมีความเสี่ยงที่จะทำให้เงินเฟ้อและการคาดการณ์เงินเฟ้อพุ่งขึ้น โดยแนวทางของเราในการยกเลิกการผ่อนคลายนโยบายอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่จับตาเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิดนั้น เพื่อที่จะสร้างความสมดุลต่อความเสี่ยงเหล่านี้" เขากล่าว