ธนาคารกลางเกาหลีใต้ (BOK) เปิดเผยผลการวิจัยในวันนี้ว่า บริษัทการเงินของเกาหลีใต้วางแผนที่จะเข้มงวดมาตรฐานการปล่อยกู้ภาคครัวเรือนในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ ขณะที่รัฐบาลประกาศมาตรการควบคุมการลงทุนเพื่อเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์
BOK ระบุว่า จากการสำรวจสถาบันการเงินในเกาหลีใต้ 199 แห่ง รวมถึงธนาคาร, ธนาคารออมทรัพย์, สถาบันปล่อยสินเชื่อ, สหกรณ์ออมทรัพย์ และบริษัทประกันชีวิต ระหว่างวันที่ 24 ส.ค.-7 ก.ย. พบว่า ดัชนีมุมมองที่มีต่อการปล่อยกู้ สำหรับธนาคารท้องถิ่น ซึ่งเป็นการวัดความเต็มใจที่จะปล่อยกู้ อยู่ที่ระดับ -30 ในเดือนต.ค.-ธ.ค. ลดลง 7 จุดจากไตรมาสก่อน
รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีมูน แจ อิน ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ปีที่แล้ว ได้ประกาศมาตรการคุมเข้มการลงทุนเพื่อเก็งกำไรในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ในขณะที่ภาคครัวเรือนเร่งรีบซื้อบ้านใหม่เพราะต้นทุนการกู้ยืมอยู่ที่ระดับเกือบต่ำสุดเป็นประวัติการณ์
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารกลางเกาหลีใต้ไม่ได้มีการปรับอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งล่าสุด นับตั้งแต่ที่ทางแบงก์ชาติได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.25% เป็น 1.50% เมื่อเดือนพ.ย.ปีที่ผ่านมา ซึ่งนำไปสู่สถานการณ์ที่ทำให้หนี้สินภาคครัวเรือนทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสู่ระดับ 2.00-2.25% ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเกาหลีใต้มาก ถ้าหาก BOK เริ่มใช้มาตรการเข้มงวดนโยบายการเงินอย่างรวดเร็วตามเฟด ความเสี่ยงด้านสินเชื่อสำหรับหนี้ครัวเรือนอาจจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว