ธนาคารกลางจีนได้ทำการอัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 8.3 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินของประเทศในวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงเป็นประวัติการณ์ โดยหวังผ่อนคลายภาวะขาดแคลนสภาพคล่อง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
"สภาพคล่องโดยรวมในระบบธนาคารกำลังลดลงอย่างรวดเร็ว" แถลงการณ์จากธนาคารกลางระบุ
ทั้งนี้ ธนาคารกลางจีนได้ทำการอัดฉีดเม็ดเงินดังกล่าวผ่านการดำเนินการข้อตกลง reverse repo ซึ่งเป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์ด้วยข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต
ธนาคารกลางยังเปิดเผยว่า การอัดฉีดดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีเงินทุนอย่างเพียงพอในระบบการเงิน ซึ่งกำลังประสบภาวะตึงตัวขณะที่ถึงช่วงการจ่ายภาษีในกลางเดือนนี้ และท่ามกลางความต้องการเงินสดก่อนหน้าเทศกาลตรุษจีนในช่วงต้นเดือนหน้า
ถึงแม้ว่าธนาคารกลางจีนมักทำการอัดฉีดเม็ดเงินในระยะนี้ของปี ก่อนถึงช่วงตรุษจีน แต่การอัดฉีดสภาพคล่องในวันนี้ถือเป็นจำนวนที่มากกว่าปกติ แม้ว่าธนาคารกลางเพิ่งประกาศลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR) ในช่วงต้นเดือนนี้ ซึ่งทำให้มีการระบายเงินสดจำนวน 1.16 แสนล้านหยวนสำหรับการปล่อยสินเชื่อใหม่ในภาคธนาคาร
การอัดฉีดสภาพคล่องครั้งใหญ่ในวันนี้ มีขึ้น หลังจากที่มีรายงานว่า จีนเตรียมใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยการปรับลดภาษี เพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจที่กำลังส่งสัญญาณชะลอตัวลงในขณะนี้