นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดได้เสร็จสิ้นการประชุมเมื่อวานนี้ โดยกล่าวว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป และพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจเป็นหลัก
"ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป เฟดจะพิจารณาถึงความจำเป็น ซึ่งรวมถึงการพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจและเงินเฟ้อ โดยเฟดจะใช้ความอดทน และจะปล่อยให้ข้อมูลที่ได้รับมานั้น เป็นตัวอธิบายถึงภาวะเศรษฐกิจ" นายพาวเวลกล่าว
ประธานเฟดยังกล่าวด้วยว่า "ปัจจัยที่จะสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยนั้น ลดน้อยลงในระดับหนึ่ง"
นายพาวเวลยังได้แสดงความเกี่ยวกับเงินเฟ้อ โดยกล่าวว่า แนวโน้มอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่น่าพอใจ พร้อมกล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปนั้น เฟดจะพิจารณาถึงภาวะเงินเฟ้อ เช่นเดียวกับข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆ
สำหรับการประชุมครั้งนี้ ที่ประชุมเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์ไว้ นอกจากนี้ ที่ประชุมยังออกแถลงการณ์ซึ่งระบุว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป โดยจะจับตาภาวะเศรษฐกิจ
ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของเฟดได้ตัดข้อความ "เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่บ่งชี้ถึงการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเฟดได้ทดแทนด้วยข้อความที่ว่า "เฟดกำลังดำเนินแนวทางที่มีความระมัดระวังมากขึ้น" ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายเดิมที่เฟดใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ในส่วนของการปรับลดงบดุลนั้น แถลงการณ์ระบุว่า เฟดพร้อมที่จะทำการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟด หากสภาวะเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงความจำเป็นดังกล่าว
นอกจากนี้ เฟดคาดหวังว่าวงเงินในงบดุลจะยังคงอยู่ในระดับสูง หลังจากที่เฟดเสร็จสิ้นการปรับลดงบดุล
แถลงการณ์ระบุว่า "เฟดเตรียมที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการปรับขนาดและองค์ประกอบในงบดุล ถ้าหากภาวะเศรษฐกิจในอนาคตทำให้เฟดมีความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าการใช้เพียงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น"