ผลการสำรวจการตัดสินใจ และเศรษฐกิจในภาคครัวเรือน ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่า ชาวอเมริกันราว 75% ซึ่งได้รับการสำรวจจากเฟดในปีที่แล้ว กล่าวว่า พวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดีในปีที่แล้ว ขณะที่เศรษฐกิจได้ฟื้นตัวขึ้น และอัตราการว่างงานลดลง
ทั้งนี้ เฟดได้ทำการสำรวจดังกล่าวนับตั้งแต่ปี 2556 ซึ่งขณะนั้น มีชาวอเมริกันเพียง 62% ที่ตอบว่าพวกเขามีความเป็นอยู่ที่ดี ต่อมาตัวเลขดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็น 70% ในปี 2559 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายของการบริหารประเทศของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก่อนที่จะพุ่งขึ้นแตะ 74% ในปี 2560 ซึ่งเป็นปีแรกของการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ดี ผลการสำรวจยังคงพบช่องว่างในสังคมอเมริกัน โดยคนผิวสี และคนที่มีการศึกษาน้อยรู้สึกว่าพวกเขามีความเป็นอยู่ที่ด้อยกว่าคนผิวขาว หรือผู้ที่จบการศึกษาจากวิทยาลัย
นอกจากนี้ รายงานดังกล่าว ซึ่งมาจากการสำรวจชาวเมริกันที่เป็นผู้ใหญ่ 11,440 คน ยังพบว่า ชาวเมริกันมีความรู้สึกว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐได้ฟื้นตัวขึ้นติดต่อกัน 10 ปี
ถึงแม้รัฐบาลสหรัฐได้ปรับเพิ่มค่าจ้าง และปรับลดภาษีในปีที่แล้ว แต่ความรู้สึกของครัวเรือนสหรัฐเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของตนแทบไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้
เฟดระบุว่า ผลการสำรวจโดยรวมถือว่าเป็นบวก และสะท้อนถึงการขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐ