ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ได้ทำการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ตลาดการเงินในวันนี้ เพื่อเพิ่มเสถียรภาพในตลาด หลังจากที่เกิดความผันผวนต่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนในสัปดาห์ที่แล้ว ท่ามกลางสภาพคล่องที่ตึงตัว
ทั้งนี้ เฟดนิวยอร์กได้อัดฉีดเงิน 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันนี้ ผ่านทางมาตรการซื้อคืนพันธบัตร (repo) ระยะ 14 วัน นอกเหนือจากการอัดฉีดสภาพคล่อง 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่านทางมาตรการ repo ข้ามคืน
เฟดนิวยอร์กจะอัดฉีดสภาพคล่อง 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ผ่านทางมาตรการ repo ข้ามคืนเป็นประจำทุกวันจนถึงวันที่ 10 ต.ค. และจะดำเนินมาตรการ repo ระยะ 14 วันอีก 2 ครั้งคิดเป็นวงเงินอย่างน้อย 3 หมื่นล้านดอลลาร์ในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์นี้
อัตราดอกเบี้ย repo ช่วงข้ามคืนร่วงลงสู่ระดับ 1.95-2.05% หลังการอัดฉีดสภาพคล่องของเฟดในวันนี้ จากก่อนหน้านี้ที่ระดับ 2.01-2.10%
ก่อนหน้านี้ เฟดสาขานิวยอร์กทำการอัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ตลาดการเงินในวันที่ 17-18 ก.ย. รวมกว่า 1 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืน โดยได้อัดฉีดเม็ดเงินจำนวน 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ตลาดในวันที่ 18 ก.ย. หลังจากที่ได้อัดฉีดเงินมากกว่า 5.3 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อวันที่ 17 ก.ย. เพื่อสกัดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่พุ่งขึ้นใกล้แตะระดับ 10%
การอัดฉีดสภาพคล่องดังกล่าว ถือเป็นครั้งแรกของเฟดนับตั้งแต่ปี 2551
นักวิเคราะห์ระบุว่า การพุ่งขึ้นของอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนมีสาเหตุจากการที่สภาพคล่องในตลาดตึงตัว เนื่องจากภาคธุรกิจจำเป็นต้องสำรองเงินสดสำหรับการชำระภาษีในไตรมาส 3