ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ในวันนี้ โดยระบุว่า กรรมการ BOJ ได้หารือกันเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม ขณะที่กรรมการบางส่วนได้เรียกร้องให้ BOJ ตระหนักถึงความจำเป็นในการเริ่มแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการสนับสนุนทางการเงิน
รายงานการประชุมระบุว่า กรรมการคนหนึ่งของ BOJ กล่าวว่า การฟื้นตัวอย่างล่าช้าของเศรษฐกิจในต่างประเทศอาจจะส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของญี่ปุ่น ซึ่ง BOJ จำเป็นต้องเริ่มพิจารณาการใช้นโยบายเพื่อรับมือ ควบคู่ไปกับการจับตาผลกระทบข้างเคียงที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี กรรมการทั้ง 9 คนของ BOJ ยังคงมีมุมมองที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการดำเนินโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกรรมการจำนวนหนึ่งเตือนว่า BOJ ควรคำนึงถึงผลกระทบในด้านลบจากการตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นเวลานาน ซึ่งรวมถึงผลกระทบที่จะมีต่อความสามารถในการทำกำไรของบรรดาสถาบันการเงิน
ในการประชุมนโยบายการเงินของ BOJ เมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมมีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ -0.1% และคงอัตราดอกเบี้ยระยะยาวไว้ใกล้ระดับศูนย์ พร้อมกับคงขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ในปริมาณมาก แม้เผชิญแรงกดดันให้ดำเนินนโยบายตามธนาคารกลางของประเทศอื่นๆ ที่พากันผ่อนคลายการเงินเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน
ทางด้านนายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ผู้ว่าการ BOJ ได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชนภายหลังการประชุมในวันดังกล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อของญี่ปุ่นกำลังปรับตัวขึ้นสู่เป้าหมายของ BOJ ที่ระดับ 2% อย่างค่อยเป็นค่อยไป นอกจากนี้ นายคุโรดะได้แสดงมุมมองที่เป็นบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจญี่ปุ่น โดยกล่าวว่า แม้เศรษฐกิจมีความเสี่ยงที่จะเผชิญภาวะขาลง แต่อุปสงค์ภายในประเทศยังคงแข็งแกร่ง
ทั้งนี้ นายคุโรดะกล่าวว่า BOJ มีทางเลือกมากมายสำหรับการเดินหน้าผ่อนคลายนโยบายการเงิน และเขามีมุมมองที่เป็นบวกเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินมากกว่าแต่ก่อน ส่วนในประเด็นการปรับขึ้นภาษีการบริโภคนั้น นายคุโรดะเชื่อว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น