เฟดเผยแบงก์พาณิชย์แห่ปิดสาขาทั่วสหรัฐ ขณะพื้นที่ชนบทได้รับผลกระทบมากที่สุด

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 26, 2019 13:59 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานฉบับใหม่ระบุว่า ธนาคารพาณิชย์ในเขตต่างๆมากกว่าครึ่งของสหรัฐได้ปิดสาขาลงในระหว่างปี 2555-2560 โดยเขตที่มีผู้มีการศึกษาน้อยและมีชนกลุ่มน้อยอาศัยอยู่นั้น ได้รับผลกระทบมากที่สุด

รายงานดังกล่าวของเฟดซึ่งมีการเผยแพร่เมื่อวานนี้ระบุว่า เขตในพื้นที่ชนบทเกือบ 800 แห่งมีการปิดธนาคารสาขา 1,533 แห่ง ซึ่งคิดเป็น 14% ของสาขาธนาคารทั้งหมด ขณะที่เขตในพื้นที่เมืองมีการปิดธนาคารสาขาเพียง 9% โดยรายงานดังกล่าวได้แสดงถึงแนวโน้มช่องว่างที่กว้างขึ้นระหว่างพื้นที่ชนบทและพื้นที่ในเขตเมืองที่มีความเจริญและการให้บริการที่ดีกว่า

ขณะที่ชาวอเมริกันในเขตเมืองและชนบทใช้บริการสาขาของธนาคารน้อยลง เนื่องจากมีการให้บริการธนาคารออนไลน์มากขึ้นนั้น สาขาธนาคารแบบดั้งเดิมก็ยังคงให้บริการที่สำคัญกับประชาชนในการเปิดบัญชี และการกู้ยืมเงิน ดังนั้น การปิดสาขาธนาคารจึงขัดขวางการเข้าถึงสินเชื่อสำหรับภาคครัวเรือนและธุรกิจขนาดเล็ก

เฟดระบุว่า เขต 44 แห่งได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการปิดสาขาธนาคาร โดยใน 1 เขตที่มีสาขาธนาคาร 10 แห่งหรือน้อยกว่า 10 แห่งในปี 2555 และได้ปิดสาขาของธนาคารเหล่านั้นอย่างน้อย 50% ของสาขาทั้งหมดในปี 2560

รายงานเฟดระบุว่า เขตในพื้นที่ชนบทที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจากการปิดสาขาธนาคารนั้น มีอัตราความยากจนสูงขึ้น, มีรายได้เฉลี่ยลดลง, มีสัดส่วนเพิ่มขึ้นสำหรับประชากรที่มีการศึกษาต่ำกว่าระดับมัธยม และมีประชากรที่เป็นชาวแอฟริกัน อเมริกันในสัดส่วนที่สูงขึ้น

รายงานระบุว่า ในการรับฟังความเห็นประชาชนที่เฟดจัดขึ้นในเขตนั้น ประชาชนระบุว่าการปิดสาขาธนาคารส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเขา โดยธนาคารในท้องถิ่นสามารถเป็นเสาหลักในการช่วยเหลือชุมชน และการปิดธนาคารสาขาได้ส่งผลกระทบอย่างมาก

เฟดระบุว่า ธนาคารต่างๆได้ปรับตัวให้เข้ากับความต้องการของชุมชนที่มีสำนักงานใหญ่ของธนาคารตั้งอยู่ ดังนั้นการปิดธนาคารสาขาอาจส่งผลกระทบในทางลบต่อตลาดท้องถิ่น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ