ธนาคารกลางญี่ปุ่นมีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ -0.1% และคงนโยบายผ่อนคลายการเงินแบบมหาศาลไว้ในการประชุมวันนี้ แม้ว่าเศรษฐกิจของญี่ปุ่นจะส่งสัญญาณของการชะลอตัวลงนับตั้งแต่ที่ได้มีการปรับขึ้นภาษีอุปโภคบริโภคเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาก็ตาม
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ภายหลังการประชุมที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วันนั้น ทางบอร์ดได้ตัดสินใจที่จะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นไว้ที่ระดับ -0.1% รวมทั้งอัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ 0%
การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่ได้มีการเปิดเผยผลการสำรวจความเชื่อมั่นรายไตรมาสของ BOJ ที่ชี้ว่า ความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ย่ำแย่ลงในไตรมาส 4 ใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 ปี
แต่ทาง BOJ ได้ดำเนินการตามรอยธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรปที่คงอัตราดอกเบี้ย ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกคลี่คลายลงหลังจากที่จีนและสหรัฐสามารถทำข้อตกลงการค้าในเฟสแรก
แถลงการณ์ของ BOJ ระบุว่า เศรษฐกิจญี่ปุ่นขยายตัวในระดับปานกลาง แม้ว่า จะมีปัจจัยบ่งชี้ถึงการอ่อนตัวของภาคส่งออก การผลิต และความเชื่อมั่นทางธุรกิจ ภายหลังจากที่เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติหลายครั้ง และดีมานด์ที่ชะลอตัวในต่างประเทศ
ในขณะที่ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกนั้นคลี่คลายลง ภายหลังจากที่ได้มีการตกลงกันระหว่างจีนและสหรัฐในเรื่องข้อตกลงการค้าเฟสแรก รวมทั้งชัยชนะในศึกเลือกตั้งทั่วไปของนายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ซึ่งช่วยให้เกิดความมั่นใจในระดับหนึ่งเกี่ยวกับการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป
ตลาดหุ้นโตเกียวที่ดีดตัวขึ้น และดัชนีนิกเกอิที่ปรับตัวขึ้นเหนือระดับ 24,000 ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 14 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รวมทั้งเสถียรภาพของเงินเยนเมื่อเทียบกับดอลลาร์นั้น เป็นปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ BOJ ในการคงมาตรการกระตุ้นค่างๆและระงับการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติม
ทั้งนี้ BOJ ได้ย้ำว่า จะใช้มาตรการผ่อนคลายเพิ่มเติม หากมีความเป็นไปได้มากขึ้นว่า โอกาสที่จะบรรลุเป้าหมายของเสถียรภาพด้านราคาจะหมดไป