คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 10-11 ธ.ค. 2562 โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า ความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐนั้นได้ลดลงอย่างมากในการประชุมเมื่อเดือนที่ผ่านมา ซึ่งเฟดได้ลงมติคงอัตราดอกเบี้ยหลังจากที่ปรับลดลงติดต่อกัน 3 ครั้ง พร้อมส่งสัญญาณว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปตลอดทั้งปี 2563
รายงานประชุมบ่งชี้ว่า กรรมการเฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 1.50-1.75% เพื่อปกป้องเศรษฐกิจสหรัฐจากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และจากความขัดแย้งด้านการค้าของรัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นอกจากนี้ กรรมการเฟดยังวิตกด้วยว่า อัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%
อย่างไรก็ตาม กรรมการเฟดจำนวนมากแสดงความเห็นว่า ความเสี่ยงของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนได้ลดน้อยลง เช่นเดียวกับแนวโน้มที่อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) แบบไร้ข้อตกลง
กรรมการเฟดระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐยังแสดงถึงการฟื้นตัว แม้เผชิญกับความขัดแย้งด้านการค้าและเศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอ ขณะที่การปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ยระยะยาวบ่งชี้ว่า แนวโน้มที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในระยะกลางนั้นได้ลดลงอย่างมากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา
แม้กรรมการเฟดลงมติอย่างเป็นเอกฉันท์ในเดือนที่แล้วให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ย แต่กรรมการเฟดหลายรายก็แสดงความวิตกเกี่ยวกับผลกระทบในระยะยาวของอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำมาก
กรรมการเฟดบางคนเตือนว่า การคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นพิเศษ อาจกระตุ้นให้มีการเก็งกำไรในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมากเกินไป ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะฟองสบู่สินทรัพย์ที่อันตราย และหากภาวะฟองสบู่เหล่านั้นแตก ก็อาจจะทำให้ภาวะเศรษฐกิจถดถอยครั้งใหม่รุนแรงมากกว่าครั้งใดๆ
อย่างไรก็ตาม กรรมการเฟดจำนวนมากขึ้นเชื่อว่า ตลาดแรงงานจะยังคงแข็งแกร่ง และดึงดูดให้ประชาชนกลับเข้ามาทำงานมากขึ้น โดยไม่ทำให้อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นมากเกินไป ซึ่งภาวะดังกล่าวจะสนับสนุนให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเพื่อลดการว่างงานลงต่อไป และกระตุ้นการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้ย้ำถึงมุมมองที่เขาเปิดเผยในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมว่า เฟดพอใจกับการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำในอนาคตอันใกล้นี้
ส่วนกรรมการเฟดแสดงความวิตกว่า ชาวอเมริกันคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในอนาคตที่ระดับต่ำเกินไป ซึ่งเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เฟดยังคงต้องตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำ โดยหวังว่าจะช่วยกระตุ้นให้เงินเฟ้อปรับตัวขึ้นได้ในที่สุด