ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ได้ปรับลดการประเมินภาวะเศรษฐกิจของภูมิภาคในญี่ปุ่นจำนวน 3 ภูมิภาค ใน 9 ภูมิภาค โดยระบุถึงการผลิตที่ชะลอตัวลง อันเนื่องมาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอจากต่างประเทศ
BOJ ระบุในรายงานประเมินภาวะเศรษฐกิจรายไตรมาส หรือซากุระ รีพอร์ทว่า BOJ ได้ปรับลดมุมมองเศรษฐกิจของภูมิภาคโฮกุริคุและภูมิภาคโตไกในภาคกลางของญี่ปุ่น รวมถึงภูมิภาคชูโกคุในภาคตะวันตก ซึ่งเศรษฐกิจในภูมิภาคดังกล่าวต้องพึ่งพาการส่งออก
นับเป็นครั้งแรกที่ BOJ ปรับลดมุมมองเศรษฐกิจของ 3 ภูมิภาคตั้งแต่เดือนเม.ย.ปีที่แล้ว ขณะที่ BOJ ยังคงการประเมินภาวะเศรษฐกิจของ 6 ภูมิภาคที่เหลือ ซึ่งได้แก่ ฮอกไกโด, โทโฮกุ, คันโตะ-โคชิเน็ตสึ, คินกิ, ชิโกกุ และคิวชู-โอกินาวา
ทั้ง 9 ภูมิภาค รายงานว่า เศรษฐกิจมีการขยายตัวหรือฟื้นตัว ขณะที่อุปสงค์ภายในประเทศยังคงอยู่ในช่วงขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม รายงานระบุด้วยว่า การส่งออก, การผลิต และความเชื่อมั่นทางธุรกิจบ่งชี้ถึงภาวะอ่อนแอ โดยได้รับผลกระทบส่วนใหญ่จากการชะลอตัวของเศรษฐกิจต่างประเทศ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ
ขณะที่ญี่ปุ่นได้ปรับขึ้นภาษีการบริโภคจาก 8% เป็น 10% ในวันที่ 1 ต.ค. 2562 นั้น เจ้าหน้าที่ BOJ รายหนึ่งระบุว่า การปรับขึ้นภาษีดังกล่าวส่งผลกระทบชั่วคราวกับการใช้จ่ายของผู้บริโภค แต่ก็มีผลกระทบในวงที่จำกัดต่อภาวะเศรษฐกิจ
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ซากุระ รีพอร์ท ประจำเดือนม.ค.ของ BOJ ออกมา หลังจากการเปิดผลสำรวจทังกันรายไตรมาสในเดือนธ.ค.ซึ่งบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นทางธุรกิจของผู้ผลิตขนาดใหญ่นั้นย่ำแย่ลงเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกันสู่ระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 7 ปี ซึ่งสะท้อนถึงการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก