นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.00-0.25% ในการประชุมวันที่ 28-29 เม.ย.นี้ และคาดว่าเฟดจะไม่ดำเนินการอัดฉีดสภาพคล่องเพิ่มเติม หลังจากที่เฟดได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อวันที่ 23 มี.ค.ที่ผ่านมา เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งมาตรการดังกล่าวรวมถึงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในวงเงินไม่จำกัด ซึ่งถือเป็นการดำเนินการแทรกแซงตลาดครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เฟดเคยดำเนินการมา
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์คาดว่า ในการประชุมครั้งนี้ เฟดอาจจะส่งสัญญาณให้ตลาดรับรู้ว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเอาไว้อีกนานเพียงใด และอาจจะแสดงมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจในช่วงที่ไวรัสโควิด-19 ยังคงแพร่ระบาด
นักวิเคราะห์หลายรายในตลาดวอลล์สตรีท ซึ่งรวมถึงนักวิเคราะห์จากบริษัทโนมูระคาดว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับดังกล่าวต่อไปจนกว่าจะเห็นภาพรวมทางเศรษฐกิจที่ชัดเจน และคาดว่าจะรักษาสภาพคล่องในตลาด รวมทั้งโครงการปล่อยกู้ไปจนกว่าเศรษฐกิจจะกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง และจนกว่าตลาดการเงินจะดำเนินไปได้อย่างราบรื่น