รายงานประชุมชี้เฟดกังวลเศรษฐกิจสหรัฐเผชิญความเสี่ยงสูงหากโควิดระบาดรอบสอง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday August 20, 2020 06:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำวันที่ 28-29 ก.ค. โดยระบุว่า กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่าแนวโน้มเศรษฐกิจของสหรัฐยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนที่สูงมาก และคาดว่า ทิศทางเศรษฐกิจในวันข้างหน้าจะขึ้นอยู่กับความสามารถในการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 อีกทั้งขึ้นอยู่กับว่าการกลับมาเปิดเศรษฐกิจอีกครั้งนั้น จะสามารถทำได้เป็นวงกว้างและมีเสถียรภาพมากเพียงใด

"แนวโน้มเศรษฐกิจกำลังเผชิญกับความเสี่ยงมากมาย ซึ่งรวมถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ของไวรัสโควิด-19 โดยสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทรุดตัวลงอีก และจะนำไปสู่ภาวะชะงักงันทางเศรษฐกิจ"

"กรรมการเฟดส่วนใหญ่มองว่า ในระยะใกล้นี้ วิกฤตด้านสาธารณสุขจะส่งผลกระทบอย่างหนักต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ และวิกฤตดังกล่าวเป็นความเสี่ยงต่อแนวโน้มเศรษฐกิจในระยะกลาง" รายงานการประชุมระบุ

นอกจากนี้ รายงานการประชุมเฟดยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการใช้มาตรการเยียวยาด้านการคลังรอบใหม่ โดยระบุว่า "มาตรการเยียวยาด้านการคลังรอบใหม่มีความจำเป็นต่อการให้ความช่วยเหลือครัวเรือนที่ได้รับความเดือดร้อน และมีความจำเป็นต่อการสนับสนุนเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง"

การแสดงความเห็นในประเด็นดังกล่าวของกรรมการเฟดมีขึ้นในช่วงเวลาที่สภาคองเกรสและทำเนียบขาวยังไม่สามารถตกลงกันได้เกี่ยวกับการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจรอบใหม่ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเด็นที่พรรคเดโมแครตเรียกร้องการให้เงินทุนสนับสนุนการส่งบัตรเลือกตั้งทางไปรษณีย์จำนวน 3.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่เห็นด้วย เนื่องจากเขามองว่าการส่งบัตรลงคะแนนทางไปรษณีย์จะนำไปสู่การฉ้อโกงในการเลือกตั้ง

ในการประชุมเฟดเมื่อวันที่ 28-29 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 0.00-0.25% พร้อมกับยืนยันว่าจะยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25% และใช้เครื่องมือทั้งหมดที่เฟดมีอยู่เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจสหรัฐ จนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวขึ้นจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และบรรลุเป้าหมายของเฟดในการจ้างงานอย่างเต็มศักยภาพ และรักษาเสถียรภาพของราคา

นอกจากนี้ เฟดจะยังคงถือครองพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยเฟดจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐวงเงิน 8 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน และซื้อตราสารหนี้ที่มีสินเชื่อที่อยู่อาศัยเป็นหลักประกันการจำนอง (MBS) ในวงเงิน 4 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือนเพื่อสร้างเสถียรภาพต่อตลาดการเงิน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ