สำนักข่าวซินหัวรายงานการแถลงข่าวโดยนายหลี่ หยาง อดีตรองประธานสถาบันสังคมศาสตร์ของจีน (CASS) เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (21 ม.ค.) ซึ่งระบุว่า นโยบายการคลังและการเงินของจีนยังมีพื้นที่ในการรักษาเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2565
นายหลี่ระบุว่า 2 นโยบายที่เริ่มดำเนินการเมื่อปี 64 นั้นเป็นแบบไม่ขยายตัวทางเศรษฐกิจ และจีนมียอดงบประมาณเกินดุลเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ซึ่งช่วยให้รัฐบาลใช้จ่ายได้มากขึ้นหากจำเป็น เพื่อรักษาระดับการเติบโตอย่างมีเสถียรภาพ
สำหรับนโยบายการเงิน จีนได้ออกมาตรการแบบขยายตัวเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งรวมถึงการลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงและการปรับลดสัดส่วนการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์ (RRR)
จีนปรับลดอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงไปเมื่อวันที่ 20 ม.ค. เนื่องจากรัฐบาลได้เพิ่มการสนับสนุนทางการเงินเพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจ โดยตั้งอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้าชั้นดี (LPR) ประเภท 1 ปี ไว้ที่ 3.7% ลดลงจาก 3.8% ในเดือนก่อนหน้า
เมื่อเดือนธ.ค. 64 ธนาคารกลางจีนประกาศปรับลด RRR ในอัตรา 0.5% สำหรับสถาบันการเงินทุกแห่ง เพื่อช่วยสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจจริง และช่วยลดต้นทุนทางการเงินอย่างครอบคลุม
ทั้งนี้ นายหลี่กล่าวว่า มาตรการเหล่านี้เป็นเครื่องสะท้อนว่าเรายังคงมีศักยภาพ ความตั้งใจ และพื้นที่ในการใช้นโยบายมหภาคเพื่อรักษาเสถียรภาพการเติบโตทางเศรษฐกิจ