ธนาคารกลางออสเตรเลีย (RBA) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนมี.ค.ในวันนี้ โดยระบุว่า กรรมการ RBA จะหารือกันเกี่ยวกับการระงับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 4 เม.ย.นี้
"กรรมการ RBA ได้ตกลงกันว่า เราจะกลับมาพิจารณาเรื่องยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งหน้า ซึ่งการพิจารณาในเรื่องดังกล่าวจะเปิดทางให้ RBA มีเวลามากขึ้นในการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ" รายงานการประชุม RBA ระบุ โดยการประชุมดังกล่าวได้จัดขึ้นเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา
รายงานการประชุมยังระบุว่า คณะกรรมการ RBA ตระหนักว่านโยบายการเงินในขณะนี้อยู่ในระดับที่มีการคุมเข้มแล้ว และแนวโน้มเศรษฐกิจของออสเตรเลียยังคงอยู่ในทิศทางที่ไม่แน่นอน
"การที่ RBA จะพิจารณาเรื่องดังกล่าวหมายความว่า กรรมการ RBA เล็งเห็นถึงความเหมาะสมที่จะตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมเพื่อประเมินผลกระทบจากการที่เราได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปแล้วหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา" รายงานการประชุมระบุ
รายงานการประชุมดังกล่าวสอดคล้องกับที่นายฟิลิป โลว์ ผู้ว่าการ RBA ซึ่งแสดงความเห็นเมื่อไม่นานมานี้ว่า เขาเปิดกว้างอย่างเต็มที่สำหรับผลการประชุมนโยบายการเงินในครั้งต่อ ๆ ไป
ส่วนในเรื่องข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยเมื่อไม่นานมานี้ RBA ระบุว่า ข้อมูลการใช้จ่ายของผู้บริโภคซึ่งเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดนั้นแสดงให้เห็นว่า รายได้ที่แท้จริงของผู้บริโภคปรับตัวลงเนื่องจากเงินเฟ้อที่สูงขึ้น รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านภาษีที่เพิ่มขึ้น และการจ่ายดอกเบี้ยที่สูงขึ้นด้วยเช่นกัน
ในการประชุมเมื่อวันที่ 7 มี.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการ RBA ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25% สู่ระดับ 3.6% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 11 ปีและเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 10
เศรษฐกิจชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา โดยสำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลีย (ABS) รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 4/2565 ขยายตัวเพียง 0.5% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ที่ขยายตัว 0.7% และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.8%
ทั้งนี้ GDP ไตรมาส 4 ขยายตัวในอัตราอ่อนแอที่สุดในรอบ 1 ปี เนื่องจากผลกระทบของการที่ธนาคารกลางปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยและภาวะเงินเฟ้อสูง ซึ่งบดบังความแข็งแกร่งของการค้า นอกจากนี้ สัญญาณทุกอย่างยังบ่งชี้ไปในทางเดียวกันว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียมีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอีกในวันข้างหน้า