สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันจันทร์ (23 มิ.ย.) เนื่องจากสถานการณ์ตึงเครียดในตะวันออกกลางเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 9.30 ดอลลาร์ หรือ 0.27% ปิดที่ 3,395.00 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำได้รับแรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่าน รวมทั้งการที่สหรัฐฯ เข้ามาร่วมวงในความขัดแย้งครั้งนี้ โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้สั่งการให้กองทัพสหรัฐฯ ใช้ระเบิดทำลายบังเกอร์เพื่อโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่านในเมืองฟอร์โด นาทานซ์ และอิสฟาฮาน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (21 มิ.ย.) ส่งผลให้ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ทวีความรุนแรงขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนอยู่แล้วจากความตึงเครียดทางการค้า
นักวิเคราะห์จากบริษัท CPM Group คาดการณ์ว่า ราคาทองคำยังคงมีแนวโน้มที่แข็งแกร่งตราบใดที่ปัญหาทางการเมืองและเศรษฐกิจยังคงดำเนินต่อไป และคาดว่าราคาทองคำอาจแตะระดับ 3,500 ดอลลาร์/ออนซ์ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า
นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงราคาบ้านเดือนเม.ย.จากเอสแอนด์พี/เคส-ชิลเลอร์, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนมิ.ย.จาก Conference Board, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค., ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ไตรมาส 1/2568 และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนพ.ค.
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ซึ่งมีกำหนดกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันอังคารที่ 24 มิ.ย. และจะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพุธที่ 25 มิ.ย.