สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อวันจันทร์ (11 ส.ค.) หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ออกมาชี้แจงว่า จะไม่มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองคำแท่ง นอกจากนี้ นักลงทุนรอดูรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ของสหรัฐฯ ซึ่งจะมีการประกาศในวันนี้ เวลา 19.30 น. ตามเวลาไทย ซึ่งอาจเป็นปัจจัยบ่งชี้แนวโน้มดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 86.6 ดอลลาร์ หรือ -2.48% ปิดที่ 3,404.7 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กได้พุ่งแรงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 ส.ค.) หลังมีรายงานข่าวว่า สหรัฐฯ อาจจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าทองคำแท่ง
อย่างไรก็ดี ทรัมป์ได้ออกมาชี้แจงผ่านโซเชียลมีเดียเมื่อคืนนี้ (11 ส.ค.) ว่า ทองคำจะไม่ถูกเรียกเก็บภาษี แต่ก็ไม่ได้ให้รายละเอียดอื่น ๆ เพิ่มเติม
นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า ตลาดอาจมีแนวโน้มเป็นขาลง เนื่องจากความไม่แน่นอนได้หมดไปแล้ว โดยเทรดเดอร์จะหันไปสนใจปัจจัยอื่น ๆ แทน
ตลาดจับตาข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศในวันนี้ โดยคาดว่าภาษีนำเข้าอาจทำให้เงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 0.3% และดันอัตราเงินเฟ้อรายปีไปอยู่ที่ 3% ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ 2% หากตัวเลขเงินเฟ้อสูงกว่าที่คาดไว้ ก็อาจทำให้เฟดมีเหตุผลที่จะชะลอการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย. ซึ่งจะส่งผลลบต่อราคาทองคำ
อย่างไรก็ตาม รายงานตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่อ่อนแอกว่าคาด ทำให้ตลาดคาดการณ์ว่า มีโอกาสเกือบ 90% ที่เฟดจะลดอัตราดอกเบี้ยลงในเดือนก.ย.นี้ และจะมีการลดดอกเบี้ยอย่างน้อยอีกครั้งก่อนสิ้นปี โดยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำมักเป็นประโยชน์ต่อตลาดทองคำซึ่งไม่มีผลตอบแทนจากดอกเบี้ย