สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเล็กน้อยในวันจันทร์ (25 ส.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เป็นปัจจัยกดดันตลาด ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 0.03% ปิดที่ 3,417.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดัชนีดอลลาร์ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.73% แตะที่ระดับ 98.430 ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อตลาด เนื่องจากการแข็งค่าของดอลลาร์ทำให้สัญญาทองคำซึ่งกำหนดราคาเป็นดอลลาร์นั้น มีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น ๆ
นักกลยุทธ์ด้านโลหะจาก Zaner Metals กล่าวว่า นักลงทุนซึมซับการแสดงความเห็นของเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด ในการประชุมที่แจ็กสันโฮลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และหันไปจับตาข้อมูลใหม่ ๆ ที่อาจบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
สัญญาทองคำพุ่งขึ้น 36.90 ดอลลาร์ หรือ 1.09% ปิดที่ 3,418.50 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวันศุกร์ หลังจากพาวเวลส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. โดยระบุถึงความอ่อนแอของตลาดแรงงาน
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 84% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.00-4.25% ในการประชุมเดือนก.ย.
นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนี PCE ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ โดยดัชนี PCE เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ เนื่องจากสามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงในพฤติกรรมของผู้บริโภค และครอบคลุมราคาสินค้าและบริการในวงกว้างมากกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI)