ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงหลุดระดับ 3,720 ดอลลาร์ โดยตลาดพักฐาน ขณะที่นักลงทุนขายทำกำไรจากราคาที่พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ ราคาทองถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
ณ เวลา 22.14 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 5.60 ดอลลาร์ หรือ 0.15% สู่ระดับ 3,719.50 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในคืนนี้ โดยคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมรอบนี้
ธนาคารดอยซ์แบงก์ ประกาศปรับเพิ่มคาดการณ์ราคาทองคำในปีหน้า สู่ระดับ 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคำของธนาคารกลาง การอ่อนค่าของดอลลาร์ และวัฏจักรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด
ก่อนหน้านี้ ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดอยซ์แบงก์คาดการณ์ราคาทองคำในปีหน้าที่ระดับ 3,700 ดอลลาร์/ออนซ์
ทั้งนี้ ราคาทองคำได้พุ่งขึ้นราว 40% นับตั้งแต่ต้นปี 2568 และแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3,702.95 ดอลลาร์ในการซื้อขายวานนี้
นอกจากนี้ ดอยซ์แบงก์ระบุว่า ความต้องการทองคำของประเทศต่าง ๆ ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าค่าเฉลี่ยในปี 25542564 ถึงสองเท่า โดยมีจีน เป็นแรงขับเคลื่อนหลัก นอกจากนี้ ปริมาณทองคำรีไซเคิลในปีนี้ยังต่ำกว่าที่คาดไว้ถึง 4% ซึ่งช่วยลดแรงกดดันด้านอุปทานของทองคำ และจะหนุนให้ราคาดีดตัวขึ้นต่อไป
อย่างไรก็ดี ดอยซ์แบงก์เตือนถึงความเสี่ยงต่อราคาทองคำ เช่น การพุ่งขึ้นของตลาดหุ้น วัฏจักรการปรับตัวลงของราคาทองคำที่มักเกิดขึ้นในไตรมาส 4 เมื่อพิจารณาสถิติย้อนหลัง 10 และ 20 ปี รวมถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐที่อาจทำให้เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยในปี 2569
ดอยซ์แบงก์ยังระบุว่า แม้ความคืบหน้าในการเจรจาการค้าของสหรัฐจะช่วยลดความไม่แน่นอนต่อการลงทุน แต่ราคาทองคำมีความอ่อนไหวต่อปัจจัยดังกล่าวเพียงเล็กน้อย