สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) หลังจากลอรี โลแกน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาดัลลัสกล่าวว่า คณะกรรมการเฟดควรใช้ความระมัดระวังในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม ซึ่งการแสดงความเห็นดังกล่าวได้ฉุดราคาทองคำปรับตัวลงจากระดับสูงสุดที่ทำไว้เมื่อวันพุธ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 29.4 ดอลลาร์ หรือ 0.75% ปิดที่ 3,868.10 ดอลลาร์/ออนซ์
โลแกนกล่าวในงานเสวนาซึ่งจัดขึ้นโดยเฟดสาขาดัลลัสว่า การที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (FOMC) ตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเมื่อวันที่ 17 ก.ย. ถือเป็นการดำเนินการที่เหมาะสมในการลดความเสี่ยงที่ตลาดแรงงานจะเผชิญภาวะขาลง แต่คณะกรรมการเฟดควรใช้ความระมัดระวังในการพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูงกว่าเป้าหมายของเฟดเป็นเวลานานกว่า 4 ปี
นักวิเคราะห์จากบริษัท RJO Futures กล่าวว่า ราคาทองคำปรับตัวลงหลังการแสดงความเห็นของโลแกน โดยแม้ว่าความคิดเห็นของประธานเฟดสาขาดัลลัสเพียงคนเดียวจะไม่ได้เป็นตัวกำหนดทิศทางนโยบายโดยรวมของเฟด แต่ก็ส่งผลให้นักลงทุนมีท่าทีระมัดระวังการซื้อขายและจับตาแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งต่อไป
แต่ถึงกระนั้นก็ตาม เครื่องมือ FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 99.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมวันที่ 28-29 ต.ค.
นักวิเคราะห์จากบริษัท StoneX กล่าวว่า สถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าและมาตรการภาษีศุลกากรที่ทำให้ภูมิทัศน์ทั่วโลกเปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังไม่มีสัญญาณคลี่คลายลง สภาพแวดล้อมเช่นนี้คาดว่าจะยังคงเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย
ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs ยังคงมีมุมมองบวกต่อราคาทองคำ โดยคาดว่าราคาทองมีแนวโน้มพุ่งแตะระดับ 4,000 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงกลางปี 2569 และแตะที่ระดับ 4,300 ดอลลาร์/ออนซ์ในเดือนธ.ค. 2569