ทองฟิวเจอร์พุ่งทะลุ $4,090 หลังทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีจีน

ข่าวต่างประเทศ Monday October 13, 2025 20:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองฟิวเจอร์พุ่งขึ้นในวันนี้ ขณะที่นักลงทุนแห่ซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ขู่ว่าจะตอบโต้จีนที่ออกมาตรการคุมเข้มการส่งออกแร่หายาก แม้ว่าในภายหลังได้กล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับจีนจะ "เป็นไปด้วยดี" ก็ตาม

ณ เวลา 19.52 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ปรับตัวขึ้น 96.00 ดอลลาร์ หรือ 2.40% สู่ระดับ 4,096.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (9 ต.ค.) จีนได้ประกาศมาตรการคุมเข้มการส่งออกแร่หายากและเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการผลิตสินค้าไฮเทค

ต่อมาในวันศุกร์ (10 ต.ค.) ทรัมป์ได้ออกมากล่าวหาจีนว่ามีท่าที "เป็นปรปักษ์อย่างยิ่ง" และกำลังจับสหรัฐฯ และทั่วทั้งโลกเป็นตัวประกัน ด้วยการเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมการส่งออก พร้อมประกาศว่า สหรัฐฯ จะเก็บภาษี 100% สำหรับสินค้าจีนทั้งหมด และคุมเข้มการส่งออกซอฟต์แวร์สำคัญ โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.

อย่างไรก็ดี ทรัมป์ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวในวันอาทิตย์ (12 ต.ค.) เมื่อถูกถามว่าการเก็บภาษีเพิ่มเติมดังกล่าวยังคงเป็นแผนการอยู่หรือไม่ โดยทรัมป์ตอบว่า "ใช่ในตอนนี้" แต่ "มาดูกันว่าจะเกิดอะไรขึ้น" พร้อมทั้งกล่าวเสริมว่า สำหรับหลายคน วันที่ 1 พ.ย. ซึ่งเขากำหนดให้เป็นวันที่อัตราภาษีใหม่จะมีผลบังคับใช้นั้น อาจฟังดูเหมือนใกล้เข้ามาแล้ว แต่สำหรับตัวเขาเอง กลับมองว่าเป็นเวลาที่ยาวนานมาก ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่ายังมีช่องว่างให้ทั้งสองประเทศสามารถถอยออกจากความขัดแย้งได้

ก่อนหน้านั้นในวันเดียวกัน ทรัมป์ได้โพสต์ข้อความบนโซเชียลมีเดียว่า ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับจีน โดยระบุว่า "ท่านประธานาธิบดีสีเพิ่งมีช่วงเวลาที่แย่ เขาไม่ต้องการภาวะเศรษฐกิจตกต่ำสำหรับประเทศของเขา และผมก็ไม่ต้องการเช่นกัน สหรัฐฯ ต้องการช่วยจีน ไม่ใช่ทำร้าย"

นอกจากนี้ ราคาทองยังได้รับแรงหนุนจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนต.ค.และธ.ค. หลังสหรัฐฯ เผชิญภาวะชัตดาวน์ รวมถึงมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่อ่อนแอ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ