ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดพุ่ง $30.4 ทำนิวไฮ รับแรงซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย-เก็งดบ.ขาลง

ข่าวต่างประเทศ Wednesday October 15, 2025 06:54 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันอังคาร (14 ต.ค.) โดยราคายังคงเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 4,100 ดอลลาร์/ออนซ์ และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ และจากการที่นักลงทุนแห่ซื้อสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 30.4 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่ 4,163.40 ดอลลาร์/ออนซ์

ความไม่แน่นอนด้านภูมิรัฐศาสตร์ กระแสคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งการที่ธนาคารกลางเดินหน้าซื้อทองคำ และเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF ทองคำ ล้วนเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำ โดยราคาทองพุ่งขึ้นประมาณ 57% แล้วในปีนี้ และทุบสถิติ 4,100 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในวันจันทร์ (13 ต.ค.)

ปีเตอร์ แกรนท์ นักกลยุทธ์ด้านโลหะจากบริษัท Zaner Metals กล่าวว่า ข้อพิพาทการค้าล่าสุดระหว่างจีนและสหรัฐฯ รวมทั้งการที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงถูกชัตดาวน์ และแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลงของเฟด ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยหนุนทองคำ โดยเขาคาดว่าราคาทองคำจะพุ่งแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ภายในกลางปีหน้า

ขณะที่นักวิเคราะห์จาก Bank of America และ Societe Generale ต่างก็เชื่อว่าราคาทองมีโอกาสแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์ในปีหน้า

ความตึงเครียดด้านการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ เริ่มทวีความรุนแรงตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ปธน.ทรัมป์ขู่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มขึ้นอีก 100% เพื่อตอบโต้จีนที่ออกมาตรการควบคุมการส่งออกแร่หายาก ล่าสุดจีนได้เรียกเก็บค่าธรรมเนียมจากเรือสหรัฐฯ ที่เข้ามาเทียบท่าในท่าเรือของจีน เพื่อตอบโต้สหรัฐฯ ที่เรียกเก็บค่าธรรมเนียมในลักษณะเดียวกันกับเรือของจีน

ส่วนสถานการณ์ชัตดาวน์ในสหรัฐฯ ได้ย่างเข้าสู่วันที่ 14 ท่ามกลางความหวังริบหรี่ที่จะเห็นวุฒิสภาสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายงบประมาณชั่วคราว เนื่องจากยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน ขณะที่สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ได้แสดงความกังวลว่าการชัตดาวน์ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ