ราคาทองยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง หลังวานนี้ทำสถิติทรุดตัวลงหนักที่สุดนับตั้งแต่ปี 2563
ทั้งนี้ ราคาทองสปอตและฟิวเจอร์ร่วงลงใกล้หลุดระดับ 4,000 ดอลลาร์ในวันนี้ โดยได้รับผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของทอง ทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น
นอกจากนี้ นักลงทุนพากันเทขายทำกำไร หลังราคาพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ก่อนหน้านี้
ณ เวลา 19.19 น.ตามเวลาไทย ราคาทองสปอต ลบ 57.71 ดอลลาร์ หรือ 1.41% สู่ระดับ 4,040.10 ดอลลาร์/ออนซ์
ส่วนสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลบ 66.70 ดอลลาร์ หรือ 1.62% สู่ระดับ 4,042.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนเทขายทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังคลายความวิตกเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานรัฐบาล หรือชัตดาวน์ รวมทั้งการทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
อย่างไรก็ดี ราคาทองคำยังคงทะยานขึ้น 54% ในปีนี้ ขณะที่ให้ผลตอบแทนมากกว่าการลงทุนในหุ้น บิตคอยน์ น้ำมัน และดอลลาร์สหรัฐ โดยทองได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐ นโยบายการเงินที่ผ่อนคลาย การเข้าซื้อทองของธนาคารกลาง อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในกองทุน ETF ทอง รวมทั้งความกังวลต่อความไม่แน่นอนทางด้านเศรษฐกิจและด้านภูมิรัฐศาสตร์
นักลงทุนจับตาตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ประจำเดือนก.ย. ในวันศุกร์ที่ 24 ต.ค. ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 28-29 ต.ค.
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 96.7% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ในการประชุมวันที่ 29 ต.ค. และให้น้ำหนัก 96.5% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 3.50-3.75% ในการประชุมวันที่ 10 ธ.ค.