สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างต่อเนื่องในวันพุธ (22 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเดินหน้าเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดก่อนหน้านี้ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์นี้ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้แนวโน้มเงินเฟ้อและทิศทางอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 43.70 ดอลลาร์ หรือ 1.06% ปิดที่ 4,065.40 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดหลายครั้งในช่วงที่ผ่านมา และปรับตัวขึ้น 57% ในปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากความต้องการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ รวมทั้งความคาดหวังที่ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และเม็ดเงินที่ไหลเข้าสู่กองทุน ETF อย่างแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์จากบริษัท High Ridge Futures กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากการที่ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา จึงไม่น่าแปลกใจที่จะเกิดการเทขายทำกำไร ก่อนที่สหรัฐฯ จะเปิดเผยตัวเลข CPI ในวันศุกร์นี้
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี CPI จะเพิ่มขึ้น 3.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนส.ค. และคาดว่าดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะปรับตัวขึ้น 3.1% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.1% เช่นกันในเดือนส.ค.
นักลงทุนรอความชัดเจนเกี่ยวกับการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน หลังจากปธน.ทรัมป์กล่าวว่า เขาคาดว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าที่น่าพึงพอใจกับจีน แต่ก็เตือนว่า แผนการพบปะกับปธน.สี จิ้นผิง ซึ่งเดิมจะมีขึ้นนอกรอบการประชุมเอเปคที่เกาหลีใต้นั้น อาจจะไม่เกิดขึ้น