ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก 17.6 ดอลลาร์ ก่อนตลาดรู้ผลประชุมเฟด

ข่าวต่างประเทศ Thursday October 30, 2025 06:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันพุธ (29 ต.ค.) ก่อนที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะแถลงมติการประชุม โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะประกาศผลการประชุมนโยบายการเงิน

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 17.6 ดอลลาร์ หรือ 0.44% ปิดที่ 4,000.7 ดอลลาร์/ออนซ์

ทั้งนี้ หลังจากตลาดทองคำปิดทำการ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติ 10 ต่อ 2 ในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 3.75-4.00% ตามคาด โดยกรรมการ 2 คนที่โหวตสวนมติการประชุมครั้งนี้ได้แก่ สตีเฟน มิแรน หนึ่งในสมาชิกคณะกรรมการผู้ว่าการเฟด ซึ่งโหวตให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% และเจฟฟรีย์ ชมิด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ โหวตให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 4.00-4.25%

เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า กรรมการเฟดยังไม่มีข้อสรุปเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือนธ.ค.

"ในการประชุม FOMC ครั้งนี้ กรรมการเฟดมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการในเดือนธ.ค. ดังนั้น การปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในการประชุมเดือนธ.ค. จึงยังไม่แน่นอน หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ห่างไกลจากความแน่นอน" พาวเวลกล่าว

ทั้งนี้ หลังการแถลงข่าวของพาวเวล นักลงทุนให้น้ำหนัก 71% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งลดลงจากที่เคยให้น้ำหนักสูงถึง 90% ก่อนหน้านี้

ราคาทองคำปรับตัวขึ้น 51% ในปีนี้ และทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ระดับ 4,381.21 เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา แต่ราคาทองคำปรับตัวลงกว่า 3% ในสัปดาห์นี้ ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการค้าที่คลี่คลายลง และทำให้นักลงทุนลดการถือครองสินทรัพย์ปลอดภัย

นักลงทุนจับตาการพบปะกันระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ที่เมืองปูซานของเกาหลีใต้ในวันนี้ (30 ต.ค.) โดยปธน.ทรัมป์ได้แสดงมุมมองบวกว่า การเจรจากับปธน.สีจะเป็นไปอย่างราบรื่น

การประชุมที่ปูซานครั้งนี้จะเป็นตัวกำหนดทิศทางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนในช่วงหลายเดือนข้างหน้า ขณะที่ผู้นำทั้งสองพยายามสร้างสมดุลระหว่าง "การแข่งขันและความร่วมมือ" ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ