ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงลงกว่า 30 ดอลลาร์ในวันนี้ (4 พ.ย.) หลังจากเจ้าหน้าที่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นอีกปัจจัยที่กดดันราคาทองคำ
ณ เวลา 13.22 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 35.10 ดอลลาร์ หรือ 0.87% แตะที่ระดับ 3,978.90 ดอลลาร์/ออนซ์
เจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. ซึ่งรวมถึงการแสดงมุมมองที่ต่างกันเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจและความเสี่ยงที่สหรัฐฯ กำลังเผชิญ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่เฟดยังเผชิญกับความท้าทายจากการขาดแคลนข้อมูลสำคัญ เนื่องจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงปิดดำเนินการเนื่องจากขาดงบประมาณ หรือชัตดาวน์
ลิซา คุก หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด กล่าวในการประชุมซึ่งจัดโดยสถาบันบรูกกิงส์ (Brookings Institution) ในวันจันทร์ (3 พ.ย.) ว่า ความเสี่ยงที่สูงขึ้นทั้งด้านการจ้างงานและการควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบเป้าหมายของเฟดนั้น ทำให้เฟดมีแนวโน้มที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมในวันที่ 9-10 ธ.ค. แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแน่นอน
ขณะเดียวกัน คุกกล่าวว่า การตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับสูงเกินไปอาจเพิ่มโอกาสที่ตลาดแรงงานจะเผชิญภาวะถดถอยลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าตลาดแรงงานในขณะนี้ยังคงมีความแข็งแกร่ง และในทางตรงกันข้าม การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากเกินคาดเพิ่มโอกาสที่จะทำให้การคาดการณ์เงินเฟ้อไม่เป็นไปตามเป้าหมาย
ด้านสตีเฟน มิแรน ผู้ว่าการเฟดอีกคนหนึ่ง ยังคงมีมุมมองว่า นโยบายการเงินของเฟดอยู่ในระดับที่คุมเข้มมากเกินไป และเขายังคงสนับสนุนให้เฟดปรับลดอัตราดอกเบี้ยขนานใหญ่ โดยมิแรนกล่าวว่า เขามีมุมมองที่เป็นบวกต่อเงินเฟ้อมากกว่ากรรมการเฟดคนอื่น ๆ และเขาไม่เห็นเหตุผลใดที่ทำให้เฟดจะยังคงดำเนินนโยบายคุมเข้มด้านการเงิน
ส่วนกรรมการเฟดอีกจำนวนหนึ่งยังคงแสดงความกังวลว่า การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากเกินไปจะทำให้เฟดเผชิญกับความเสี่ยงที่เงินเฟ้อจะปรับตัวสูงขึ้น โดยออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดสาขาชิคาโก เปิดเผยว่า ในตอนนี้เขามีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อมากกว่าตลาดแรงงาน
ขณะนี้นักลงทุนให้น้ำหนัก 67% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมเดือน.ค. ซึ่งลดลงจากที่เคยให้น้ำหนักเต็ม 100% เมื่อช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา