สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกในวันศุกร์ (7 พ.ย.) เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง และความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้มีความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยเพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 18.80 ดอลลาร์ หรือ 0.5% ปิดที่ 4,009.80 ดอลลาร์/ออนซ์
ทองคำถือเป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยงในช่วงที่เกิดความไม่แน่นอน และในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่มีผลตอบแทน มักได้ประโยชน์เมื่ออัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับต่ำ
ตลาดหุ้นที่มีหุ้นเทคโนโลยีเป็นหลักนั้นเผชิญกับการร่วงลงรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 7 เดือนในวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลเกี่ยวกับความยั่งยืนของการปรับตัวขึ้นของราคาหุ้นในกลุ่มปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ทำให้ทองคำซึ่งซื้อขายในหน่วยดอลลาร์มีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือสกุลเงินอื่น
การปิดหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ ส่งผลให้รายงานการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนยังไม่มีการเผยแพร่ นักลงทุนจึงหันไปดูข้อมูลจากภาคเอกชนซึ่งชี้ว่าเดือนต.ค.มีการสูญเสียตำแหน่งงาน เพื่อประเมินโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้
ตามข้อมูลจากเครื่องมือ FedWatch ของซีเอ็มอี กรุ๊ป ตลาดประเมินว่า มีโอกาส 66% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ในเดือนธ.ค.
จีนได้เริ่มออกแบบระบบใบอนุญาตใหม่สำหรับกลุ่มแร่หายาก ซึ่งอาจช่วยเร่งการส่งออกได้เร็วขึ้น แม้ยังไม่คาดว่าจะยกเลิกข้อจำกัดทั้งหมดตามที่สหรัฐฯ ต้องการ
ธนาคารคอมเมิร์ซแบงก์ ระบุในรายงานว่า แม้สถานการณ์ด้านนโยบายการค้าจะเริ่มสงบลง แต่ความขัดแย้งยังไม่ได้รับการแก้ไขโดยสิ้นเชิง ดังนั้นทองคำจึงยังคงเป็นที่ต้องการในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
ส่วนในอินเดีย ความต้องการทองคำยังคงซบเซา เนื่องจากราคาผันผวนทำให้ผู้ซื้อชะลอการเข้าซื้อ และบรรดาพ่อค้าทองต้องเสนอส่วนลดมากขึ้น