สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4,500 ดอลลาร์ในวันอังคาร (23 ธ.ค.) ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ รวมทั้งสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลา ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนแรงซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 36.30 ดอลลาร์ หรือ 0.81% ปิดที่ 4,505.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และเวเนซุเอลาได้ทวีความรุนแรงมากขึ้น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ มีคำสั่งให้ปิดล้อมเรือบรรทุกน้ำมันทั้งหมดที่ถูกคว่ำบาตร ไม่ให้เดินทางเข้าและออกจากเวเนซุเอลา นอกจากนี้ ทรัมป์ยังไม่ปฏิเสธความเป็นไปได้ที่ว่าสหรัฐฯ อาจจะทำสงครามกับเวเนซุเอลา
ในช่วงเวลาเกือบ 4 เดือนที่ผ่านมา สหรัฐฯ ตรึงกำลังทหารจำนวนมากในทะเลแคริบเบียน โดยเฉพาะบริเวณนอกชายฝั่งเวเนซุเอลา โดยอ้างว่าเพื่อปราบปรามการค้ายาเสพติด ขณะที่ทางการเวเนซุเอลาประณามว่า ปฏิบัติการดังกล่าวเป็นเพียงข้ออ้างในการพยายามโค่นล้มอำนาจรัฐบาลเวเนซุเอลาเท่านั้น
ราคาทองคำพุ่งขึ้นไปแล้วประมาณ 70% นับตั้งแต่ต้นปีนี้ โดยได้แรงหนุนจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ ตลอดจนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) การเข้าซื้อทองคำโดยธนาคารกลาง และความต้องการลงทุนในทองคำที่เพิ่มขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
นักวิเคราะห์จาก SP Angel กล่าวว่า ธนาคารกลางมีแนวโน้มที่จะเดินหน้าซื้อทองคำเพื่อกระจายทุนสำรอง ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในระยะยาว พร้อมกับคาดการณ์ว่าราคาทองคำจะปรับตัวขึ้นแตะระดับ 5,000 ดอลลาร์/ออนซ์ ในปี 2569
นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเพิ่มความน่าดึงดูดให้กับทองคำ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 0.35% แตะที่ 97.942
ส่วนราคาโลหะต่าง ๆ ปรับตัวขึ้นเช่นกัน โดยราคาโลหะเงินพุ่งขึ้นทะลุระดับ 70 ดอลลาร์ ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เช่นเดียวกับราคาพลาตินัมที่พุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ราคาโลหะเงินได้แรงหนุนจากภาวะขาดแคลนอุปทานในตลาด ท่ามกลางความต้องการใช้ในด้านอุตสาหกรรม รวมทั้งได้ปัจจัยบวกจากกระแสเงินลงทุนในตลาด ขณะที่ไมเคิล บราวน์ นักวิเคราะห์จาก Pepperstone คาดการณ์ว่าราคาโลหะเงินจะดีดตัวขึ้นต่อไป โดยมีเป้าหมายระยะยาวอยู่ที่ระดับ 75 ดอลลาร์/ออนซ์