สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.14% ปิดที่ 1,318.4 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 3.3 เซนต์ ปิดที่ 20.916 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 70 เซนต์ ปิดที่ 1,456.6 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.เพิ่มขึ้น 45 เซนต์ ปิดที่ 822.65 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นเนื่องจากสถานการณ์ในอิรักที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐจะสนับสนุนกองกำลังรักษาความสงบของอิรักอย่างเต็มที่และยั่งยืนในการต่อสู้กับกลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงที่บุกเข้ายึดหลายเมืองในภาคเหนือและภาคตะวันตกของประเทศ
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวในระหว่างการหารือร่วมกับนานยกรัฐมนตรีนูริ อัล-มาลิคี ของอิรักในกรุงแบกแดด ขณะที่ผู้นำอิรักได้ยืนยันว่าจะทำตามพันธกิจในการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ในวันที่ 1 ก.ค.นี้
ทั้งนี้ ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐได้ส่งที่ปรึกษาทางทหารจำนวน 300 นายไปช่วยประสานงานด้านการสู้รบในอิรัก พร้อมกับเรียกร้องให้นายมาลิคีใช้ความพยายามมากขึ้นในการยุติความแตกแยกซึ่งส่งผลให้ชาวมุสลิมที่นับถือนิกายซุนนีรู้สึกถูกแปลกแยก
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของจีนและสหรัฐได้สกัดแรงบวกของสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนมักจะเข้าซื้อเมื่อเศรษฐกิจซบเซาลง โดยมาร์กิตเปิดเผยว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะ 57.5 ในเดือนมิ.ย. จากระดับ 56.4 ในเดือนพ.ค. ตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลงมาอยู่ที่สู่ระดับ 56
ขณะที่เอชเอสบีซี โฮลดิงส์ เปิดเผยว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นของจีนในเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้นแตะ 50.8 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 7 เดือน จาก 49.4 ในเดือนพ.ค.
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่าสัญญาทองคำอาจจะเคลื่อนไหวที่เหนือระดับ 1,300 ดอลลาร์/ออนซ์ได้ไม่นานนัก เนื่องจากความต้องการทองคำจากกลุ่มกองทุน ETF เริ่มชะลอตัวลง
ทั้งนี้ HSBC คาดการณ์ว่า ราคาทองคำอาจจะเคลื่อนไหวที่ระดับ 1,292 ดอลลาร์/ออนซ์ในช่วงปลายปีนี้