สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 3.6 ดอลลาร์ หรือ 0.29% ปิดที่ 1,221.7 ดอลลาร์/ออนซ์ อย่างไรก็ตาม ตลาดทั้งสัปดาห์นั้น สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 2.4% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นรายสัปดาห์ครั้งแรกในรอบ 6 สัปดาห์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 11.5 เซนต์ ปิดที่ 17.303 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 16.7 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,261.6 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 15.45 ดอลลาร์ ปิดที่ 785.05 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้น โดยดัชนีดอลลาร์ซึ่งวัดความเคลื่อนไหวของสกุลเงินของประเทศต่างๆ 6 ประเทศนั้น ปรับตัวสูงขึ้น 0.4% ในวันศุกร์ หลังจากในรายงานการประชุมนั้น เฟดได้ส่งสัญญาณว่าจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไป ซึ่งการแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาทองคำซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ รายงานการประชุมนโยบายการเงินของเฟดประจำวันที่ 16-17 ก.ย. ระบุว่า สัญญาณชี้นำล่วงหน้าของอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) นั้น จะขึ้นอยู่กับข้อมูลเศรษฐกิจในปัจจุบัน และยังไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นหลังจากโครงการซื้อสินทรัพย์สิ้นสุดลง ซึ่งรายงานดังกล่าวทำให้ตลาดคาดการณ์ว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำต่อไปอีกนาน เมื่อพิจารณาจากข้อมูลเศรษฐกิจที่ซบเซาในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำปรับตัวลงในกรอบที่จำกัด เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลกและการร่วงลงของตลาดหุ้นทั่วโลกนั้น ได้กระตุ้นให้นักลงทุนจำนวนหนึ่งยังคงเดินหน้าเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้รับแรงหนุนจากรายงานที่ว่า ความต้องการทองคำในประเทศอินเดียปรับตัวสูงขึ้นก่อนช่วงเทศกาลทิวาลี