สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 17.7 ดอลลาร์ หรือ 1.54% ปิดที่ 1,169.00 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค.เพิ่มขึ้น 57.30 เซนต์ ปิดที่ 16.114 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 27 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,119.60 ดอลลาร์/ออนซ์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.15 ดอลลาร์ ปิดที่ 765.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองพุ่งขึ้นหลังจากเฟดระบุในแถลงการณ์ภายหลังการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมาว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 'ไม่มีแนวโน้ม' ที่จะเกิดขึ้นในการประชุมเดือนเม.ย. และระบุว่า การเปลี่ยนแปลงสิ่งชี้นำอัตราดอกเบี้ยไม่ได้หมายความว่าเฟดได้ตัดสินใจเกี่ยวกับกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว
ทั้งนี้ แถลงการณ์เฟดได้ยกเลิกการใช้คำว่า "อดทน" ในการพิจารณากำหนดเวลาสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ซึ่งถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิ.ย.นี้ อย่างไรก็ดี เฟดระบุว่า จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยก็ต่อเมื่อเฟดมีความเชื่อมั่นว่าภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำในขณะนี้กำลังจะปรับตัวกลับสู่ระดับ 2% ซึ่งเป็นเป้าหมายของเฟด และตราบใดที่ตลาดแรงงานยังคงฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐยังได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยว่า ดัชนีภาวะธุรกิจในภูมิภาคมิด-แอตแลนติกชะลอตัวสู่ระดับ 5.0 ในเดือนมี.ค. จาก 5.2 ในเดือนก.พ. ด้านกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 14 มี.ค. เพิ่มขึ้น 1,000 ราย สู่ระดับ 291,000 ราย