ณ เวลา 21.15 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค. บวก 0.1% แตะ 1,156.50 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกร่วงลง 0.3% ในเดือนมิ.ย. โดยอยู่ที่ระดับ 4.42 แสนล้านดอลลาร์ ขณะที่ผู้บริโภคชะลอการใช้จ่าย หลังจากที่ดีดตัวขึ้นจากภาวะซบเซาในช่วงฤดูหนาว
นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังได้ปรับลดยอดค้าปลีกในเดือนพ.ค. เป็นเพิ่มขึ้น 1% หลังจากรายงานในตัวเลขเบื้องต้นว่าเพิ่มขึ้น 1.2% และปรับลดยอดค้าปลีกในเดือนเม.ย. เป็นทรงตัว จากที่ระบุว่าเพิ่มขึ้น 0.2%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดค้าปลีกจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนมิ.ย.
การลดลงของยอดค้าปลีกในเดือนที่แล้วเกิดขึ้นในวงกว้าง โดยยอดขายรถยนต์, เสื้อผ้า และวัสดุก่อสร้างต่างปรับตัวลง
หากไม่รวมยอดขายรถยนต์ ยอดค้าปลีกลดลง 0.1% ในเดือนมิ.ย. และหากไม่รวมยอดขายน้ำมัน ยอดค้าปลีกลดลง 0.4%
นักลงทุนจับตานางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะทำการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีต่อสภาคองเกรสในวันพรุ่งนี้ และวันพฤหัสบดี ซึ่งตลาดทั่วโลกจะจับตาแถลงการณ์ของนางเยลเลนเพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ หลังจากที่ได้กล่าวยืนยันแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นางเยลเลนจะแถลงนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพรุ่งนี้ และจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันพฤหัสบดี
นางเยลเลนกล่าวยืนยันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาถึงแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐในปีนี้ ขณะที่ระบุว่ามีสัญญาณบ่งชี้ว่าค่าจ้างกำลังฟื้นตัวขึ้น
"ดิฉันคาดว่าเป็นเรื่องที่เหมาะสมสำหรับการดำเนินการขั้นแรกในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงต่อไปในปีนี้ และปรับนโยบายการเงินเป็นแบบปกติ" เขากล่าว
คำกล่าวของนางเยลเลนถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เกิดเหตุการณ์กรีซผิดนัดชำระหนี้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และการทรุดตัวของตลาดหุ้นจีน ซึ่งทำให้ตลาดการเงินคาดว่าเฟดอาจเปลี่ยนแปลงแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้
นางเยลเลนคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัวปานกลางในปีนี้