สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (4 ต.ค.) โดยสัญญาทองคำดิ่งลงไปกว่า 3% เพราะได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ออกมาสนับสนุนให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ร่วงลง 43 ดอลลาร์ หรือ 3.28% ปิดที่ระดับ 1,269.7 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.093 ดอลลาร์ หรือ 5.80% ปิดที่ 17.775 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 18.6 ดอลลาร์ หรือ 1.84% ปิดที่ 990.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 12.25 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 699.55 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำร่วงลงอย่างหนักหลังจากเจ้าหน้าที่เฟดได้ออกมาสนับสนุนให้มีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดนายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์ กล่าวว่า เหตุผลสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกำลังมีน้ำหนักมากขึ้น โดยเฟดควรปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากเพื่อทำให้เงินเฟ้ออยู่ภายใต้การควบคุม ด้านนางโลเรตตา เมสเตอร์ ประธานเฟด สาขาคลีฟแลนด์ กล่าวว่า เฟดควรปรับขึ้นตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 1-2 พ.ย. แม้ว่าการประชุมจะมีขึ้นก่อนการเลือกตั้งสหรัฐวันที่ 8 พ.ย. เพียงไม่กี่วัน พร้อมกับเน้นย้ำว่า การเมืองไม่ได้ส่งผลต่อการตัดสินใจของเฟด ขณะเดียวกันตลาดได้รับแรงกดดันหลังจากสื่อต่างประเทศรายงานว่า ECB อาจจะปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน ก่อนที่โครงการดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนมี.ค.ปีหน้า