สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (12 ต.ค.) โดยได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ขณะที่นักลงทุนจับตาดูรายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะมีการเปิดเผยหลังจากตลาดทองคำปิดทำการซื้อขายแล้ว
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.10 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่ระดับ 1,253.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 40 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่ 17.505 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 7.9 ดอลลาร์ หรือ 0.83% ปิดที่ 941.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 95 เซนต์ หรือ 0.2% ปิดที่ 649.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำปรับตัวลงติดต่อกัน 2 วันทำการ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาแพงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ทำให้ดอลลาร์แข็งค่านั้น มาจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยนักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์ระบุว่า เฟดมีโอกาสมากขึ้นที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. เนื่องจากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรครีพับลิกัน มีโอกาสน้อยลงที่จะคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 8 พ.ย.
นักลงทุนจับตารายงานการประชุมประจำเดือนก.ย.ของเฟด โดยเฟดจะเปิดเผยรายงานดังกล่าวหลังจากที่ตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายแล้ว พร้อมกับจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในการประชุมเศรษฐกิจครั้งที่ 60 ของเฟดสาขาบอสตัน ในวันศุกร์ที่ 14 ต.ค.นี้ตามเวลาสหรัฐ