สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (14 ต.ค.) หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 2.1 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ 1,255.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 1.7 เซนต์ หรือ 0.10% ปิดที่ 17.441 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 6.6 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 939.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 11.45 ดอลลาร์ หรือ 1.8% ปิดที่ 648.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่าว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบรายเดือน ขณะที่ราคาพลังงาน และอาหารปรับตัวขึ้น
เมื่อเทียบรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 0.7% ในเดือนก.ย.
ส่วนดัชนี PPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมหมวดอาหาร, พลังงาน และภาคบริการ เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย.
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การปรับตัวเพิ่มขึ้นของดัชนี PPI ผนวกกับข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งถือเป็นปัจจัยหนุนอย่างต่อเนื่องสำหรับการตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงปลายปีนี้ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
นอกจากนี้ ราคาทองคำยังได้รับแรงกดดันจากรายงานของกระทรวงพาณิชย์สหรัฐที่ระบุว่า ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนก.ย. ซึ่งสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
ในช่วง 9 เดือนแรก ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ยอดค้าปลีกได้รับแรงหนุนจากการปรับตัวขึ้นของราคาพลังงาน และยอดซื้อรถยนต์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ยอดค้าปลีกที่เพิ่มขึ้นมีแนวโน้มที่จะผลักดันการขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐ ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด