สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (14 พ.ย.) โดยได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งกระแสคาดการณ์ที่ว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ อาจจะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และกดดันให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในที่สุด
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 2.6 ดอลลาร์ หรือ 0.21% ปิดที่ระดับ 1,221.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 48.9 เซนต์ หรือ 2.81% ปิดที่ 16.893 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.ร่วงลง 9.6 ดอลลาร์ หรือ 1.02% ปิดที่ 933.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 13 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 697.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ โดยเมื่อดอลลาร์แข็งค่านั้น จะส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการคาดการณ์ที่ว่า นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายทรัมป์ ซึ่งรวมถึงการผ่อนคลายกฎระเบียบของภาคธนาคาร, ปรับลดภาษีของภาคธุรกิจ และกระตุ้นการใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคนั้น จะส่งผลให้เงินเฟ้อปรับตัวสูงขึ้น และทำให้เฟดต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในที่สุด
ทางด้านนายสแตนลีย์ ฟิสเชอร์ รองประธานเฟด ได้ส่งสัญญาณขานรับนโยบายของนายทรัมป์ในการเพิ่มมาตรการกระตุ้นทางการคลัง เพื่อผ่อนคลายภาระของเฟดในการใช้นโยบายทางการเงิน