สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 พ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 6 วันทำการก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์และกระแสคาดการณ์เรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 2.8 ดอลลาร์ หรือ 0.23% ปิดที่ระดับ 1,224.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค.เพิ่มขึ้น 15 เซนต์ หรือ 0.89% ปิดที่ 17.043 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค.เพิ่มขึ้น 1.10 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 934.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค.พุ่งขึ้น 8.25 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 705.95 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ร่วงลงติดต่อกัน 6 วันทำการก่อนหน้านี้ โดยทองคำได้รับปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร รวมทั้งแรงซื้อทางเทคนิค
อย่างไรก็ตาม สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันในระหว่างวัน เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐได้ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยง
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า ยอดค้าปลีกเดือนต.ค.เพิ่มขึ้น 0.8% เมื่อเทียบรายเดือน ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 0.6% โดยได้รับแรงหนุนจากยอดขายรถยนต์ และวัสดุก่อสร้างสำหรับการซ่อมแซมบ้านเรือนที่ได้รับความเสียหายจากพายุเฮอร์ริเคนแมทธิว
ขณะที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กรายงานว่า ดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) มีการขยายตัวในเดือนพ.ย. หลังจากหดตัวติดต่อกัน 3 เดือน โดยดัชนีภาคการผลิตเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 1.5 ในเดือนพ.ย. จากระดับ -6.8 ในเดือนต.ค.
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 0 บ่งชี้ภาวะหดตัว ขณะที่เหนือระดับ 0 บ่งชี้ถึงภาวะขยายตัว