ราคาทองฟิวเจอร์ร่วงต่อเนื่อง กองทุน SPDR ขายทองอย่างหนัก ขณะนักลงทุนกังวลเฟดขึ้นดบ.,ดอลล์แข็ง

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 24, 2016 21:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ราคาทองฟิวเจอร์ปรับตัวลงในวันนี้ โดยถูกถ่วงลงจากการแข็งค่าของดอลลาร์ ขานรับคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในเดือนหน้า

CME Group FedWatch ระบุว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 100% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 13-14 ธ.ค.

รายงานประชุมเฟดวันที่ 1-2 พ.ย. บ่งชี้ว่า เจ้าหน้าที่เฟดมีความเชื่อมั่นในช่วงก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า

ขณะเดียวกัน กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ยังคงเทขายทองอย่างต่อเนื่อง โดยได้ลดการถือครองทอง 1.47% สู่ระดับ 891.57 ตันเมื่อวานนี้ โดยปริมาณการถือครองทองได้ต่ำกว่าระดับ 900 ตัน ขณะที่ในเดือนนี้ กองทุน SPDR ได้เทขายทองออกมาแล้วมากกว่า 5%

ณ เวลา 21.33 น.ตามเวลาไทย สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ซึ่งมีการซื้อขายทางระบบอิเลกทรอนิกส์ ร่วงลง 2.60 ดอลลาร์ หรือ 0.22% สู่ระดับ 1,186.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ตลาดมีการซื้อขายที่เบาบางในวันนี้ เพราะเป็นวันหยุดในสหรัฐ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจะลดความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ดอลลาร์ยังคงดีดตัวขึ้นในวันนี้ ขานรับตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ ซึ่งทำให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า

ณ เวลา 19.58 น.ตามเวลาไทย ดอลลาร์แข็งค่า 0.58% สู่ระดับ 113.15 เยน ขณะที่ยูโรปรับตัวขึ้น 0.56% สู่ระดับ 119.37 เยน และอ่อนค่าลง 0.04% สู่ระดับ 1.0552 ดอลลาร์ ส่วนดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน บวก 0.06% สู่ระดับ 101.77

ทั้งนี้ ดอลลาร์แตะระดับสูงสุดในรอบ 8 เดือนเมื่อเทียบเยน และระดับสูงสุดเกือบ 14 ปีเมื่อเทียบตะกร้าเงิน

นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อเทียบกับสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่ เช่น รูปีของอินเดีย ไลราของตุรกี และหยวนของจีน

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐ เช่น เครื่องบิน รถยนต์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป ดีดตัวขึ้นในเดือนต.ค. โดยพุ่งขึ้น 4.8% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.2015 หลังจากปรับตัวขึ้น 0.4% ในเดือนก.ย.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่ายอดสั่งซื้อสินค้าคงทนของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.5% ในเดือนต.ค.

การทะยานขึ้นของยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนมีสาเหตุจากการปรับตัวขึ้นของอุปสงค์สำหรับเครื่องจักร และอุปกรณ์อื่นๆ

ขณะเดียวกัน ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน ซึ่งเป็นคำสั่งซื้อสินค้าทุนที่ไม่รวมเครื่องบิน และเป็นสิ่งบ่งชี้แผนการใช้จ่ายของภาคธุรกิจ เพิ่มขึ้น 0.4% ในเดือนต.ค. สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากลดลง 1.4% ในเดือนก.ย.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ