สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (23 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ นอกจากนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ยังผลักดันให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.พุ่งขึ้น 10.7 ดอลลาร์ หรือ 0.89% ปิดที่ระดับ 1,215.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 15.4 เซนต์ หรือ 0.90% ปิดที่ 17.186 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.40% ปิดที่ 979.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 16.90 ดอลลาร์ หรือ 2.1% ปิดที่ 771.50 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาทองคำได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งติดตามความเคลื่อนของสกุลดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบ 6 สกุลเงินหลัก ปรับตัวลง 0.48% สู่ระดับ 100.15 เมื่อคืนนี้ ซึ่งการอ่อนค่าของดอลลาร์ส่งผลให้สัญญาทองคำมีราคาที่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ
นอกจากนี้ ความวิตกกังวลที่ว่านโยบายเศรษฐกิจของปธน.ทรัมป์อาจส่งผลให้เกิดสงครามการค้าทั่วโลกนั้น ยังทำให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ เพื่อให้สหรัฐถอนตัวออกจากข้อตกลง TPP อย่างเป็นทางการแล้ว ซึ่งทรัมป์มองว่าการดำเนินการดังกล่าว "ถือเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่สำหรับแรงงานชาวสหรัฐ"
นอกจากนี้มีรายงานว่า ทรัมป์เตรียมลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเพื่อให้สหรัฐทำการเจรจาครั้งใหม่ต่อข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (นาฟต้า) กับแคนาดาและเม็กซิโก เพื่อไม่ให้สหรัฐเสียเปรียบในการทำการค้า