สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (3 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อทองคำ หลังจากตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานสหรัฐในเดือนม.ค. เพิ่มขึ้นในอัตราลดลง จึงทำให้นักลงทุนคลายความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จากสถานการณ์เงินเฟ้อสูงขึ้นในระยะนี้
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1.4 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 1,220.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 17.479 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 7.1 ดอลลาร์ หรือ 0.71% ปิดที่ 1,006.70 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ร่วง 10.05 ดอลลาร์ หรือ 1.3% ปิดที่ 749 ดอลลาร์/ออนซ์
กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 227,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่อัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 4.8%
โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. และอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.7%
ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญเพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเงินเฟ้อ เพิ่มขึ้น 0.1% ในเดือนม.ค. หลังจากพุ่งขึ้น 0.4% ในเดือนธ.ค.
นอกจากนี้ ตัวเลขรายได้ต่อชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงานได้ปรับตัวขึ้นเพียง 3 เซนต์ในเดือนม.ค. หรือ 2.5% เมื่อเทียบรายปี
ภาวะการซื้อขายในตลาดทองคำยังได้รับปัจจัยหนุนหลังจากสภาทองคำโลก (WGC) เปิดเผยในรายงานว่า ตัวเลขอุปสงค์การลงทุนทองคำในปี 2559 นั้น พุ่งขึ้นถึง 70% แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี เนื่องจากความไม่แน่นอนของการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตและการเลือกตั้งสหรัฐ
โดยในภาพรวม อุปสงค์ทองคำทั่วโลกในปี 2559 ขยับตัวขึ้น 2% อยู่ที่ 4,308.7 ตัน สูงสุดนับตั้งแต่ปี 2556 ขณะที่ปริมาณอุปสงค์การลงทุนทองคำในปี 2559 เพิ่มขึ้น 1,561.1 ตัน เทียบกับระดับ 918.7 ตันของปี 2558
ตลอดสัปดาห์นี้สัญญาทองคำปรับตัวขึ้น 2.4% ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 7 เดือน