สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (8 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงเดินหน้าเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย อันเนื่องมาจากสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองในต่างประเทศ ซึ่งรวมถึงสถานการณ์ด้านการเลือกตั้งในฝรั่งเศส และนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่กีดกันพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิมไม่ให้เดินทางเข้าสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 3.40 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ระดับ 1,239.50 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 10 พ.ย.2559
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 5.1 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 17.705 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 6.5 ดอลลาร์ หรือ 0.64% ปิดที่ 1,019.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 769.75 ดอลลาร์/ออนซ์
สถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองในต่างประเทศยังคงเป็นปัจจัยที่ผลักดันให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยนักลงทุนกังวลว่านางมารีน เลอเปน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรค National Front (FN) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองชูนโยบายประชานิยมขวาจัด และหนุนให้ฝรั่งเศสแยกตัวจากสหภาพยุโรป อาจคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส
ส่วนสถานการณ์ในสหรัฐนั้น นักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากนโยบายห้ามพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าสหรัฐ ซึ่งนโยบายดังกล่าวส่งผลให้เกิดความขัดแย้งกันระหว่างคณะบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์และฝ่ายตุลาการของสหรัฐ โดยขณะนี้ศาลอุทธรณ์ของรัฐบาลกลางสหรัฐได้ดำเนินการไต่สวนเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของคณะบริหารทรัมป์ ที่เรียกร้องให้ศาลยกเลิกการระงับคำสั่งของประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศห้ามพลเมืองจาก 7 ชาติมุสลิมเดินทางเข้าประเทศสหรัฐ