สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (13 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกัน 3 วันทำการ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะแถลงต่อคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารของวุฒิสภาสหรัฐในวันที่ 14-15 ก.พ.นี้ โดยคาดว่าอาจจะมีการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 10.1 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ระดับ 1,225.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 11.2 เซนต์ หรือ 0.62% ปิดที่ 17.821 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.ร่วงลง 11.4 ดอลลาร์ หรือ 1.13% ปิดที่ 1,000.30 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.ลดลง 8.15 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 774.95 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีของตลาดหุ้นนิวยอร์กทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อคืนนี้ อันเนื่องมาจากข่าวที่ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐ เตรียมประกาศแผนการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ รวมทั้งรายงานที่ว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีท่าทีที่เป็นมิตรมากขึ้นต่อจีนและญี่ปุ่น ซึ่งเป็นสองประเทศคู่ค้ารายใหญ่ของสหรัฐ
ทั้งนี้ ทรัมป์ยังได้สนทนาทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีน โดยให้คำมั่นสัญญาว่าจะเคารพในหลักการนโยบายจีนเดียว นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้จัดการประชุมหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ที่กรุงวอชิงตัน ซึ่งทรัมป์กล่าวว่า สหรัฐต้องการความสัมพันธ์ทางการค้าที่เสรี เป็นธรรม และต่างตอบแทนกันร่วมกับญี่ปุ่น
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังได้รับแรงกดดันจากการที่นักลงทุนระมัดระวังการซื้อขาย ก่อนที่นางเยลเลน ประธานเฟดจะแถลงต่อคณะกรรมาธิการในสภาคองเกรส ในวันที่ 14-15 ก.พ.นี้ โดยคาดว่าถ้อยแถลงครั้งนี้จะครอบคลุมถึงภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและนโยบายการเงิน และอาจมีการส่งสัญญาณถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ด้วย