สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (15 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ตาม การที่ตลาดหุ้นสหรัฐยังคงทำสถิติสูงสุดติดต่อกัน 5 วันนั้น ได้สกัดแรงซื้อทองคำในระหว่างวัน
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 7.7 ดอลลาร์ หรือ 0.63% ปิดที่ระดับ 1,233.10 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 7.4 เซนต์ หรือ 0.41% ปิดที่ 17.963 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.เพิ่มขึ้น 7.7 ดอลลาร์ หรือ 0.77% ปิดที่ 1,009.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 5.30 ดอลลาร์ หรือ0.7% ปิดที่ 786.20 ดอลลาร์/ออนซ์
นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำร่วงลงติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยเมื่อดอลลาร์แข็งค่านั้น จะส่งผลให้สัญญาทองคำมีมูลค่าที่ไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินอื่น
อย่างไรก็ตาม แรงซื้อทองคำได้ถูกสกัดลงในระหว่างวัน เนื่องจากตลาดหุ้นสหรัฐทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อคืนนี้ หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ให้คำมั่นว่าจะดำเนินการปรับลดภาษีและลดกฎระเบียบในภาคอุตสาหกรรม โดยการพุ่งขึ้นของตลาดหุ้นส่งผลให้นักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
นอกจากนี้ ตลาดทองคำยังคงได้รับแรงกดดันจากการที่นางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในการแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อคืนนี้