สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงติดต่อกันเป็นวันที่ 9 เมื่อคืนนี้ (10 มี.ค.) ซึ่งเป็นขาลงยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2558 โดยตลาดยังคงได้รับแรงกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนนี้ หลังจากสหรัฐเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่ง
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย.ลดลง 1.8 ดอลลาร์ หรือ 0.15% ปิดที่ 1,201.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 11.3 เซนต์ หรือ 0.66% ปิดที่ 16.923 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 1 ดอลลาร์ หรือ 0.11% ปิดที่ 938.20 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. ลดลง 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.4% ปิดที่ 745.15 ดอลลาร์/ออนซ์
ภาวะการซื้อขายได้รับแรงกดดันหลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 235,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. ขณะที่อัตราการว่างงานลดลงสู่ระดับ 4.7%
นักวิเคราะห์คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า การจ้างงานจะเพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. และอัตราการว่างงานจะลดลงสู่ระดับ 4.7%
ข้อมูลจ้างงานสหรัฐที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้นักลงทุนเพิ่มการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาสสูงถึง 93% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 14-15 มี.ค. เพิ่มขึ้นจากระดับ 91% ก่อนการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานสหรัฐเมื่อคืนนี้
ในสัปดาห์ที่แล้วนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟดได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐที่ Executives Club of Chicago โดยเธอระบุว่า "ในการประชุมครั้งต่อไปของเฟดซึ่งจะมีขึ้นในเดือนนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) จะประเมินว่า ตัวเลขการจ้างงานและเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับที่สอดคล้องกับการคาดการณ์ของเราหรือไม่ ซึ่งหากตัวเลขดังกล่าวเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (federal funds rate) ก็เป็นเรื่องที่เหมาะสม"
สำหรับในสัปดาห์นี้สัญญาทองคำปรับตัวลงราว 2%